หนุ่มพิการเจอสาวใหญ่เดินทางถวายสักการะ


นครศรีธรรมราช 25 ต.ค.- สาวใหญ่ปั่นจักรยานเจอหนุ่มพิการขับ จยย.พ่วงข้าง มีเป้าหมายเดียวกันเข้า กทม. เพื่อแสดงความอาลัย และเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

25-10-2559 22-57-13 25-10-2559 22-57-35


วันนี้ (25 ต.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารถนนเอเชีย 41 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีนางอมลวรรณ มณีภาค อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264/1 ม.13 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ปั่นรถจักรยานไปเจอกับ นายสนิท คงแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บานเลขที่ 503/1 ม.1 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง หนุ่มพิการทั้งมือและเท้า ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง โดยบังเอิญ ขณะทั้งสองกำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และต้องการเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย

โดยนายสนิท ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองลงจากรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเพื่อหยุดพักผ่อนขณะเดินทาง ในขณะที่นางอมลวรรณ ถีบรถจักรยานผ่านมาแล้วแวะพักผ่อนที่ศาลาที่พักผู้โดยสารเช่นกัน ก่อนจะมีการพูดคุยกัน โดยพบว่าทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อถวายความอาลัยและเคารพพระศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง มาให้ความสะดวกทั้งสองในการเดินทางจากผ่าน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี

นายสนิท กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ โดยขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากบ้าน จ.พัทลุง ตั้งแต่วานนี้ (24 ต.ค.59) ซึ่งไม่ได้กำหนดว่าจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ วันไหน แต่จุดมุ่งหมายคือต้องการกราบไหว้พระบรมศพพระองค์ท่านด้วยความจริงใจ


นางอมลวรรณ กล่าวว่า มาจาก จ.สงขลา ตั้งแต่เช้าตรู่ และได้มาเจอนายสนิท โดยบังเอิญ และรู้สึกประทับใจ หลังพูดคุยกันก็มีเป้าหมายเดียวกันคือร่วมถวายความอาลัยพ่อหลวงครั้งหนึ่งในชีวิต จึงได้เดินทางพร้อมกันดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง