ชัวร์ก่อนแชร์: มะเร็งเต้านมเพิ่ม 2-10 เท่าหลังฉีดวัคซีนโควิด จริงหรือ?

23 พฤษภาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีคลิปวิดีโอข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง Tiktok ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่ายอดผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในกลุ่มสตรีอเมริกันที่อายุต่ำกว่า 45 ปี เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในปี 2022 ส่วนยอดการตรวจพบมะเร็งเต้านมยังเพิ่มถึงอีก 10 เท่าในปี 2023 อีกด้วย


บทสรุป :

  1. เป็นการนำเสนอข้อมูลเท็จ จากการอ่านช่วงอายุผู้ป่วยมะเร็งเต้านมผิด
  2. สมาคมมะเร็งสหรัฐฯ ประเมินว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้นปีละ 0.5%
  3. แต่อัตราการเสียชีวิตจะลดลง เมื่อสังคมให้ความสำคัญกับการคัดกรองมะเร็งมากขึ้น

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จากการตรวจสอบโดย Fact Checker พบว่า ข้อมูลดังกล่าว เกิดจากการนำเสนอข้อมูลสถิติที่ผิดพลาดของผู้โพสต์คลิป Tiktok จนถูกนำไปแชร์ต่ออย่างผิด ๆ ในเวลาต่อมา


ข้อมูลดังกล่าวนำมาจากการประเมินยอดการป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ในกลุ่มประชากรแต่ละช่วงวัย โดยสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society : ACS) ซึ่งเป็นการคาดการณ์ยอดผู้เสียชีวิตล่วงหน้า ไม่ใช่ยอดผู้ป่วยหรือเสียชีวิตที่แท้จริง

อ่านช่วงอายุผิด

ผู้โพสต์อ้างว่ายอดผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอเมริกันอายุต่ำกว่า 45 ปี เพิ่มจากปี 2021 เกือบ 2 เท่าในปี 2022 (จากปีละ 26,510 เคสในปี 2021 เพิ่มเป็น 47,550 เคส ในปี 2022)

แต่แท้จริงแล้ว ตัวเลขในปี 2022 ไม่ใช่ยอดผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอเมริกันอายุต่ำกว่า 45 ปี แต่คือผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอเมริกันอายุต่ำกว่า 50 ปี

ส่วนยอดปี 2023 ที่อ้างว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่เพิ่มจากปี 2021 เป็น 10 เท่าหรือเพิ่มเป็น 297,790 เคส แท้จริงแล้วคือการคาดการณ์ยอดผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในทุกช่วงอายุ ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงอายุต่ำกว่า 45 ปีตามที่กล่าวอ้าง

อายุยิ่งมาก ยิ่งเสี่ยงมะเร็ง

ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นทุกปีจนถึงอายุ 80 ปี โดยช่วงอายุ 20 ปีจะมีความเสี่ยง 1 ใน 1,439 ราย ช่วงอายุ 30 ปีจะมีความเสี่ยง 1 ใน 204 ราย ช่วงอายุ 40 ปีจะมีความเสี่ยง 1 ใน 63 ราย ช่วงอายุ 50 ปีจะมีความเสี่ยง 1 ใน 41 ราย

NCI ยืนยันว่า จากการรวบรวมข้อมูลการทดลองทางคลินิกและจากการใช้วัคซีนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ยังไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งแต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุที่ยอดผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้นหลังปี 2021 ซึ่งตรงกับการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลก เป็นเพราะในปี 2020 จำนวนการตรวจคัดกรองผู้ป่วยมะเร็งลดลงอย่างมากจากการล็อกดาวน์ ส่งผลทำให้การพบผู้ป่วยลดลงในปี 2020 จนเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ จำนวนผู้ป่วยมะเร็งก็กลับมาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

หญิงสาวเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นปีละ 0.5%

ข้อมูลจากสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2000’s เป็นต้นมา ในกลุ่มผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปี จะพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นปีละ 0.5% ปัจจัยเสี่ยงมาจากวิถีชีวิตของผู้หญิงในปัจจุบัน
ทั้งการมีลูกตอนอายุมากหรือน้ำหนักตัวขึ้นหลังหมดประจำเดือน

อย่างไรก็ดี อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมมีแนวโน้มที่จะลดลง ปัจจัยสำคัญมาจากการรักษาที่ดีขึ้น และสังคมเห็นถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น นำไปสู่การตรวจหามะเร็งแต่เนิ่น ๆ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/06/scicheck-tiktok-video-mangles-american-cancer-society-breast-cancer-estimates/
https://healthfeedback.org/claimreview/breast-cancer-cases-havent-doubled-us-women-under-45-despite-social-media-claims/
https://www.politifact.com/factchecks/2023/jun/29/instagram-posts/claim-about-breast-cancer-deaths-wildly-misstates/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง