อิตาลี 20 พ.ค.-นายกฯ หารือนักธุรกิจด้านการบิน-ประกันภัย และยานยนต์ เชื้อเชิญลงทุน และตั้งสำนักงานในไทย พร้อมอัพเกรดสนามบิน และกองทัพ เล็งจัดแข่งขัน MotoE ควบฟอร์มูลา E ที่เชียงใหม่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังได้พบกับนักธุรกิจบริษัทเทคโนโลยีอวกาส (Leonardo), บริษัทประกันภัย (Generali ) และบริษัทยานยนต์ (Ducati Motor) ว่า คณะแรกได้พูดคุยกับบริษัทลีโอนาร์โด ซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งในประเทศไทยมีเฮลิคอปเตอร์จากบริษัทดังกล่าวประมาณ 30 ลำ และมีการทำเรื่องเรดาร์ รวมถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับการบิน
นอกเหนือจากนั้นบริษัทดังกล่าวได้เข้าถือหุ้นครึ่งหนึ่งในบริษัทแอร์บัส ที่ผลิตเครื่องบิน ATR โดยรัฐบาลมีจุดประสงค์ 2 เรื่องคือ การย้ายสำนักงานภูมิภาค มายังประเทศไทย และเรื่องศูนย์ซ่อมบำรุง ซึ่งบริษัทลีโอนาร์โด ก็ได้ให้ความสนใจที่จะย้ายสำนักงานมายังประเทศไทย แต่เรื่องของศูนย์ซ่อมบำรุง ขอดูเรื่องปริมาณก่อน ซึ่งนโยบายหลักของรัฐบาลคือต้องการอัพเกรด Aviation Industry ก็คือเรื่องของสนามบิน เป็นเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ล้านนา และอันดามัน
นอกเหนือจากนั้นจะมีการพูดคุยถึงเรื่องสนามรอง ที่มีขนาดเล็ก เช่นหากต้องใช้เครื่องบิน ATR ก็จะมีขนาดเล็กกว่าเครื่องบินแอร์บัส 320 ที่ใช้อยู่ หรือว่า Boeing 737 ที่ใช้อยู่กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งสนามบินรอง ก็ไม่อาจสามารถให้เครื่องบินเหล่านี้ลงได้
รวมถึงต้องการให้อัพเกรดกองทัพไทยทั้งหมด ตามแผน 5-10 ปีที่พูดคุยกันไว้ที่ประเทศฝรั่งเศส จึงบอกให้เขาได้ไปพูดคุยกับทูตทหาร และฝากให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่าบริษัทดังกล่าวมีศักยภาพสูงในการจัดทำเรื่องอุตสาหกรรมด้านกลาโหม
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า วันนี้ได้พูดคุยกับบริษัท Generali (เจเนราลี) ซึ่งเป็นบริษัททำประกัน และปัจจุบันได้ถือหุ้นอยู่กับคนไทยประมาณ 49 % และเข้าใจถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดไทย ซึ่งเจเนราลี มีความมั่นใจว่าตลาดไทยจะมีการเติบโตขึ้นไปอีกเยอะ และการเจาะตลาดของธุรกิจประกันที่ต่ำอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขทั่วโลก จึงเป็นช่องทางที่เจเนราลี หมายปองอยู่ที่ทำธุรกิจ แต่ก็มีความลำบากในการเสนอคณะกรรมการให้มาลงทุนจำนวนมากในประเทศไทย เพราะถือหุ้นเพียง 49 %
โดยนายกรัฐมนตรีได้แจ้งกลับไปว่า หากตลาดมีขนาดใหญ่มาก แม้ถือหุ้นเพียง 49 % ก็จะได้ผลตอบแทนการเงินที่สูงอยู่ดี พร้อมกับเชื่อว่าอุตสาหกรรมด้านประกันภัย สามารถเติบโตไปได้ไกล จึงขอให้บริษัทดังกล่าวกลับไปคิด พร้อมคาดหวังว่าเขาจะกลับมาลงทุนเพิ่มที่ประเทศไทย
ต่อจากนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัทยานยนต์ (Ducati Motor) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ว่า นอกจากประเทศอิตาลี บริษัท Ducati Motor ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว อีกทั้งยังมีการทำ Training Center ด้วย
นอกเหนือจากนั้นก็ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนทางด้าน MotoE หรือ E-bike ที่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งการแข่งขัน Moter bike และปัจจุบัน Ducati ก็มีความเข้าใจในเรื่องของมอเตอร์ กรังด์ปรีซ์ ที่บุรีรัมย์ ซึ่งบริษัทดังกล่าวก็มีส่วนร่วม
ขณะที่เรื่องของฟอร์มูลา E ที่รัฐบาลกำลังติดต่ออยู่ และจะนำมาจัดแข่งขันที่เชียงใหม่ในปีหน้า ซึ่ง การแข่งขัน MotoE มีเจ้าของคนเดียวกัน จึงมีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ว่าหากไทยจัดฟอร์มูลา E ที่เชียงใหม่แล้ว และสัปดาห์ต่อมาจะจัดแข่งขัน MotoE ด้วย ซึ่งพยายามพูดคุยกันอยู่
โดยทาง Ducati ก็ไม่ได้ร้องขออะไรจากเราเพิ่มเติม แต่ต้องการขยายห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ได้แค่นำชิ้นส่วนมาประกอบ แต่ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะถูกผลิตที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ดังนั้นที่มาคุยกันในวันนี้ เป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจทั้งหมด เพราะสังคมยุโรปค่อนข้างใกล้ชิดกัน จะเห็นได้ว่าฝรั่งเศสกับอิตาลีมีความเชื่อมโยงกัน.-316.-สำนักข่าวไทย