นายกฯ เยือนยุโรป เจรจา FTA และคุยเชงเกนวีซ่า

กระทรวงการต่างประเทศ  16 พ.ค.-โฆษก กต. แถลงนายกฯ เยือนยุโรป เจรจา FTA และคุยเชงเกนวีซ่าให้ได้ข้อสรุปภายใน ปี 68 ขณะเตรียมคุยเอกชนญี่ปุนชวนลงทุนในไทย


นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงภารกิจการเยือนต่างประเทศของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า วันที่ 15-16 พฤษภาคม 2567 นายกรัฐมนตรีจะนำนักธุรกิจไทยเข้าร่วมงาน Thailand – France Business Forum & Roundtable ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผลสำเร็จต่อเนื่องจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี และนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในโอกาสเยือนเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยวัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน คือ การส่งเสริมการค้าระหว่างกัน สนับสนุนให้ภาคเอกชนฝรั่งเศสเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ยังมีกำหนดการที่จะพบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส  เพื่อติดตามผลความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และซอฟต์พาวเวอร์ การยกระดับความสัมพันธ์ไทยฝรั่งเศสสู่ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ตามแผนการการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย – ฝรั่งเศส ค.ศ. 2022 – 2024

ส่วนวันที่ 17-21 พฤษภาคม 2567 นายกรัฐมนตรี จะเยือนอิตาลี อย่างเป็นทางการ โดยจะพบหารือกับนางจอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิตาลี และขยายความร่วมมือในสาขาที่ไทย และอิตาลี มีศักยภาพร่วมกัน ได้แก่ พลังงานหมุนเวียน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา วิทยาศาสตร์การแพทย์ เภสัชกรรม และกลาโหม โดยนายกรัฐมนตรีจะผลักดันประเด็นสำคัญ เช่น การยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทยในเขตเชงเกน และการเจรจาความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ไทย – สหภาพยุโรป ให้สามารถสรุปภายในปี 2568 รวมถึงการรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลไปทำงานในอิตาลีในอนาคต  นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนของอิตาลีด้วย


จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ที่ญี่ปุ่น 22-24 พฤษภาคม 2567 โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวปาฐกถาแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของไทย ภายใต้หัวข้อ Asian Leadership in an Uncertain World เสนอให้เอเชียมีความร่วมมือสำคัญ ทั้งการเชื่อมโยงด้านการค้าการลงทุน  เสริมสร้างความยั่งยืนโดยเน้นเศรษฐกิจและพลังงานสีเขียว  การร่วมมือเพื่อเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล และการปรับกระบวนทัศน์ของระบบพหุพาคีใหม่ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของเอเชีย และก้าวข้ามสถานการณ์โลกที่ผันผวนท้าทาย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี จะใช้โอกาสนี้หารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดการลงทุนมายังประเทศไทย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก