“มาริษ” มั่นใจสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ แน่นแฟ้น

บน.6 / 6 พ.ย.- “มาริษ” ขอรอความชัดเจนผลเลือกตั้งผู้นำสหรัฐก่อน มั่นใจใครมาเป็นประธานาธิบดีความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ มั่นคง แน่นแฟ้น


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาที่ขับเคี่ยวระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรคริพับลิกัน ที่มีคะแนนนำ และนางคอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ว่าต้องรอความชัดเจนผลการเลือกตั้งก่อน ถึงจะสามารถพูดได้ ส่วนจะมีผลต่อนโยบายของรัฐบาลไทยหรือไม่หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องนี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว บุคคลใดจะมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือจะมีการเปลี่ยนตัว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ยังคงมั่นคง เรียกได้ว่าเข้มแข็ง หรือมีความชัดเจนในทุกด้าน รวมถึงมีความร่วมมือกันอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาก็ตาม ประเทศไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมายาวนาน ดังนั้นการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐฯ ยังคงจะเหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของผู้นำทั้งสองประเทศและทุกภาคส่วน เพราะความจริงแล้วรัฐบาลเข้ามาดูในเรื่องของนโยบาย แต่ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันมีหลายระดับและหลายมิติ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องไปด้วยกันทั้งภาครัฐ หรือจีทูจี เอกชน และภาคประชาชน ดังนั้นทั้ง 3 ระดับนี้ดีอยู่แล้ว ใครจะมาเป็นหัวเรือจึงไม่มีปัญหาก็ดำเนินความสัมพันธ์เช่นนี้ต่อไป โดยย้ำขอให้รอผลการเลือกตั้งก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือไม่ และหลังจากนั้นจึงจะมีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ใครจะมาดำรงตำแหน่งนี้ และจะมีนโยบายอย่างไร แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ จึงยังไม่อยากให้รายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะอาจจะส่งผลต่อการพูดคุยในอนาคต ดังนั้นขอให้รอฟังทุกสิ่งทุกอย่างให้แน่นอนก่อน แต่ยืนยันว่าใครมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ยังคงมั่นคงแน่นแฟ้น และนี่คือนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีบทบาทและต้องการเห็นความร่วมมือกับทุกประเทศเป็นไปอย่างดี และมีความยุติธรรมเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง