กาญจนบุรี 27 เม.ย. – ไล่ล่าแก๊งเรือหางยาวขนแรงงานเถื่อน คนขับอาศัยความมืดหลบหนี โดนรวบ 1 ลำ รวบเพิ่มแรงงานอีก 48 คน รอส่งต่อไปมาเลเซีย รับจ่ายค่าหัว 35,000-50,000 บาท
หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาด้วยการใช้เรือยนต์ ล่องมาจากชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าขึ้นฝั่ง จึงนำกำลังเดินทางไปซุ่มโป่งบริเวณริมถนนทางลงท่าแพ
กระทั่งเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่พบเรือหางยาวจำนวนหลายลำ แล่นมาตามน่านน้ำ เจ้าหน้าที่เรือตรวจการจึงเปิดไฟส่องสว่างส่งสัญญาณ เพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่า คนขับเรืออาศัยความมืดและความชำนาญน่านน้ำ ขับเรือหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แม้เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามไปอย่างกระชั้นชิดแต่ก็ไล่ไม่ทัน พบเรือเพียง 1 ลำ ลอยอยู่เหนือน้ำ เนื่องจากใบพัดเรือเสียจึงไม่สามารถไปต่อได้ มีแรงงานชาวเมียนมาที่โดยสารมากับเรือลำดังกล่าว จำนวน 13 คน
คนขับเรือ ให้การว่า ขนแรงงานมาจากท่าน้ำในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และให้มาส่งที่ริมน้ำบ้านท่าแพ อ.ทองผาภูมิ โดยจะได้ค่าหัวคนละ 300 บาท ขณะแรงงานที่โดยสารมากับเรือ ไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และให้การว่าหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ โดยจะจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง คนละ 15,000 บาท
แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดข้างต้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีได้ไม่นาน ก็ได้รับแจ้งจากสายข่าวอีกครั้งหนึ่งว่า พบกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บ้านท่าแพ ต.ท่าขนุน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าริมน้ำ นับรวมกันได้จำนวน 48 คน
จากการสอบสวนผ่านล่าม ทราบว่าทั้งหมดหลบหนีเข้ามาในไทยทางช่องทางธรรมชาติ ทางด้านด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี โดยมีคนขับรถยนต์มารับไปลงเรือเรือที่ท่าน้ำในพื้นที่ อ.สังขละบุรี แล้วนำมาส่งที่ชายป่าจุดที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ซึ่งทั้งหมดรอรถยนต์มารับเพื่อมุ่งหน้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ทุกคนต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้ามากถึงคนละ 35,000-50,000 บาท
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ จากนั้นจะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. รอผลักดับกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป.-สำนักข่าวไทย