นนทบุรี 15 มี.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายในประเมินราคาสินค้าเกษตรของไทยในปีนี้ถือว่าดีต่อเนื่อง ไม่เฉพาะ ยางพาราเท่านั้น แต่พืชเศรษฐกิจสำคัญชนิดอื่น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน ราคาดีทุกรายการเช่นเดียวกัน ส่งผลดีกับเกษตรกร เตรียมแผนแนะทางเลือกช่วงมะนาวแพงใช้ “มะนาวผง” รสชาติไม่เพี้ยน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่าปีนี้ถือเป็นข่าวดีของเกษตรกร โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าว ที่ราคายังดีต่อเนื่อง สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ยืนราคานี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เฉลี่ยตันละ 14,850 บาท สูงสุดถึง 15,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ทรงตัวเฉลี่ย 14,600 บาท สูงสุดที่ 15,200 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี สูงขึ้นเล็กน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ 14,850 บาทต่อตัน ขยับขึ้นมาจากสัปดาห์ก่อนที่ 14,570 บาทต่อตัน ข้าวเปลืกกเจ้า ทรงตัวเฉลี่ยที่ตันละ 12,300 บาท สูงสุดที่ 12,700 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกเหนียว ที่ตันละ 13,300 บาท ถือว่าราคาข้าวทุกตัวอยู่ในเกณฑ์ดี และสูงกว่าปีที่แล้ว ขณะที่มันสำปะหลัง ยืนราคานี้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว กิโลกรัมละ 3.65 บาท 65 เป็นราคาที่ดีกว่าปีที่แล้วเช่นกัน
ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทรงตัว ที่กิโลกรัมละ 9.63 บาทสูงสุดที่ 9.80 บาทถือเป็นราคาดีที่เกษตรกรพอใจ ส่วนราคารับซื้อหน้าโรงงาน อยู่ที่ 10.34 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 2 สตางค์ ขณะที่ราคาผลปาล์มน้ำมันเฉลี่ยที่ 5.65 บาท สูงสุดที่ 6 .10 บาทต่อกิโลกรัม สอดกคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ หรือ CPO 34.13 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เฉลี่ยขวดลิตรละ 45.19 บาทแต่ในห้างต่างๆ นำมาจัดโปรโมชั่น ในราคาขวดละ 43 บาท ซึ่งขณะนี้สตอกน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ในเกณฑ์ที่บริหารจัดการได้ประมาณ 220,000 ตัน และผลผลิต กำลังทยอยออกสู่ตลาด ตั้งแต่เดือนนี้จนถึงเดือนพฤษภาคม
ส่วนราคายางพาราถือว่าปรับขึ้นเยอะ โดย ราคายางแผ่นดิบ เฉลี่ย 85.66 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าปีที่แล้วมาก ที่เฉลี่ยเพียง 47.58 บาทและยังสูงกว่าเดือนที่แล้วที่ 70.72 บาท ราคาน้ำยางสดเฉลี่ยที่ 77.50 บาทต่อกิโลกรัม จากปีที่แล้วเฉลี่ยเพียง 48.25 บาทและยังมีแนวโน้มขยับขึ้นอีก จากมาตราการบริหารจัดการผลผลิตผลที่ดี
นอกจากนี้ จากสภาพอากาสที่ร้อนขึ้น โดยกรมการค้าภายในได้ติดตามราคาสินค้าอาหารสด ก็ปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดบ้าง แต่ในช่วงหน้าร้อนนี้ ที่ฝนทิ้งช่วง ทำให้ราคาพืชผักบางชนิด เริ่มขยับขึ้นบ้าง เช่น มะนาว จากผลผลิตที่ลดลง ดังนั้น กรมการค้าภายใน แนะทางเลือก เปลี่ยนมาใช้ “มะนาวผง” ทดแทนได้
โดยพืชผักมีทั้งปรับขึ้น และราคาลดลงตามกลไก ซึ่งจากสภาวะอากาศที่ร้อนจัด และฝนทิ้งช่วง ทำให้ผักหลายชนิด ผลผลิตลดลง โดยเฉพาะมะนาว ที่ผลผลิตในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีปริมาณ 42,000 ตัน ถือว่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีผลผลิตเฉลี่ยถึง 56,000 ตัน ส่งผลให้ราคาเริ่มขยับขึ้น สัปดาห์นี้ เฉลี่ยอยู่ที่ลูกละ 4 บาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ยลูกละ 3.71 บาทเพิ่มขึ้นประมาณ 29 สตางค์ต่อลูก แต่ราคาจะขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วย
สำหรับราคามะนาวเฉลี่ยในแต่ละตลาด เช่นตลาดศรีเมือง อยู่ที่ลูกละ 3.60 บาทถึง 3.90 บาทตลาดสี่มุมเมืองเฉลี่ยลูกละ 3.50 บาทถึง 4.30 บาทและตลาดไทเฉลี่ยลูกละ 3.70 บาท โดย
กรมการค้าภายในได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยไปรวบรวมมะนาว มาไว้ส่วนหนึ่ง นำไปทำ “มะนาวผง” ร่วมกับ สวนจิตรลดา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งมีจำหน่ายผ่าน ร้านธงฟ้า และรถโมบายธงฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงอยากแนะนำให้ ร้านอาหารต่างๆ สามารถใช้เลือกใช้ มะนางผง ทดแทนได้ ซึ่งในตลาดมีหลายยี่ห้อให้เลือก หรือ หากจะใช้น้ำมะนาวขวด ก็ควรจะเลือกจากแหล่งที่มาที่มีมาตรฐาน
ส่วนผักที่ราคาปรับขึ้น เช่น คะน้า เฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.30 บาท จากเดือนก่อนที่ 34.54 บาท และกวางตุ้ง อยู่ที่กิโลกรัมละ 31 บาท จากสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 29 บาท แต่ก็มีผักที่ราคาลดลงหลายชนิด เช่น กะหล่ำปลีกิโลกรัมละ 25.20 บาท ลดลงจากเดือนก่อนที่ 25.57 บาทและ ผักกาดขาวอยู่ที่ 30.90 บาท ย่อลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 30.97 บาทรวมทั้ง ต้นหอม ที่กิโลกรัมละ 70.40 บาทจากสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 72.70 บาท และผักชี เฉลี่ยกิโลกรัมละ 81 บาท ลดลงจากเดือนที่แล้วที่เฉลี่ย 82.67 บาทโดย
จะมีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ทั้งในตลาดสด และตลาดกลางค้าผัก โดยยืนยันว่าปริมาณจะมีเพียงพอ แต่หากเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ ก็มีแผนเชื่อมโยงกระจายไปยังจุดต่างๆ
ขณะที่ ราคาเนื้อหมู ยังทรงตัวระดับต่ำ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 126 ถึง 128 บาท ซึ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามรักษาระดับราคาไม่ให้ต่ำไปกว่านี้ เนื้อไก่ มีทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลดลง ตามชิ้นส่วน โดยเนื้อน่องติดสะโพกเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 82.31 บาท ชิ้นส่วนน่องกิโลกรัมละ 82.81 บาท ชิ้นส่วนสะโพกกิโลกรัมละ 85.25 บาท และ เนื้อหน้าอกกิโลกรัมละ 76.13 บาท ส่วนไข่ไก่ ราคาย่อลงเล็กน้อย เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 3.79 บาทจากสัปดาห์ก่อนที่ฟองละ 3 .84 บาท ขณะที่ ปลา ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว โดยปลานิลกิโลกรัมละ 75.50 บาท ปลาดุกกิโลกรัมละ 75.80 บาท ปลาทับทิมราคาย่อลงเล็กน้อย อยู่ที่กิโลกรัมละ 104 บาท ปลากะพง ราคาเริ่มดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เฉลี่ย กิโลกรัมละ 139 บาทเป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย