กรุงเทพฯ 4 ส.ค.-การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)
Kick off สนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบกิจการยาง โดยจะต้องเป็นผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้น
คาดจะสามารถดูดซับยางออกจากระบบประมาณร้อยละ 20
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า รัฐบาล ได้ให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาราคายาง
จึงได้อนุมัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง
หวังดูดซับยางออกจากระบบ ซึ่งจะช่วยยกระดับราคาให้สูงขึ้น เป็นการสร้างเสถียรภาพด้านราคายาง
ซึ่งผู้ประกอบกิจการยางสามารถรับซื้อผลผลิตไปแปรรูปเป็นยางประเภทต่าง ๆ
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไป โดยโครงการนี้ กำหนดระยะเวลาโครงการตั้งแต่ พฤษภาคม 2560 – เมษายน 2562
และระยะเวลาในการอนุมัติวงเงินกู้จนสิ้นสุดการชำระเงินกู้ตามโครงการฯ 1 ปี ไม่เกินวันที่
30 เมษายน 2562
โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการชดเชยดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3
กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ หรือคิดเป็นเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาท
จากวงเงินกู้ 10,000 ล้านบาท
ให้กับผู้ประกอบการโดยใช้แหล่งสินเชื่อวงเงินกู้เดิมจากธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการใช้บริการอยู่แล้ว
นายธีธัช ระบุว่า
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อดังกล่าว จะเป็นผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้นที่จดทะเบียนในประเทศไทย
และมีผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยมากกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว
ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 35 บริษัท 49 โรงงาน
วงเงินกู้รวมประมาณ 9,600 ล้านบาท คาดว่าโครงการนี้
จะสามารถดูดซับยางออกจากระบบประมาณร้อยละ 20 ของผลผลิตน้ำยางข้น
เป็นการผลักดันราคายางให้สูงขึ้นโดยใกล้เคียงหรือสูงกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยาง
และรักษาเสถียรภาพราคายางไม่ให้เกิดความผันผวนมากเกินจุดวิกฤติ
นายชัยพจน์ เรืองวรุณวัฒนา
นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย กล่าวว่า โครงการนี้
ทำให้เกิดความร่วมมือสามประสานระหว่างเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยาง
และรัฐบาลในการร่วมกันแก้ไขปัญหาราคายาง ซึ่งผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้นที่เข้าร่วมโครงการฯ
ต้องยื่นขอรับการสนับสนุนสินเชื่อที่ กยท.
เพื่อรวบรวมคำขอส่งให้ธนาคารที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อต่อไป
โดยแหล่งสินเชื่อใช้วงเงินกู้เดิมจากธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการใช้บริการอยู่แล้ว
และรัฐบาลจะเงินชดเชยดอกเบี้ยสนับสนุนในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 จำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาทจากวงเงินกู้รวม
10,000 ล้านบาท คาดว่า
จะสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ
เมื่อฐานของราคายางปรับสูงขึ้นเกษตรกรชาวสวนยางมีอำนาจการใช้จ่ายมากขึ้น
จะสร้างวงจรเศรษฐกิจให้เคลื่อนไหวได้รับประโยชน์กันในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยต่อไป-สำนักข่าวไทย