ตลาดหลักทรัพย์ 12 มิ.ย. – TFEX และ กยท.ร่วมพัฒนาราคาอ้างอิงยางพารา (Rubber Reference Price) เพื่อใช้อ้างอิงในการทำธุรกรรมซื้อขายใน-ต่างประเทศ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง มั่นใจกระบวนการคำนวณราคาเป็นมาตรฐาน โปร่งใส พร้อมหนุนยาง EUDR ของไทย
นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) และนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาการคำนวณราคายาง โดยจะคำนวณและเผยแพร่ราคาอ้างอิง (Rubber Reference Price) ได้แก่ ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 เผยแพร่เวลา 12.00 น. และราคาน้ำยางข้นและยางแท่ง เผยแพร่เวลา 19.00 น. มีกำหนดเริ่มเผยแพร่ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในเดือนกรกฎาคม 2567 และราคาน้ำยางข้นและยางแท่งในเดือนกันยายน 2567 เป็นต้นไป
นางสาวรินใจ เปิดเผยว่า การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยมีราคาอ้างอิงในการซื้อขายยางพารา (Rubber Reference Price) ที่เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรมยาง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง มุ่งหวังให้ราคาอ้างอิงที่พัฒนาขึ้นมานี้เป็นที่ยอมรับและถูกใช้อ้างอิงในการทำธุรกรรมซื้อขายทั้งในและต่างประเทศ โดย TFEX เป็นผู้คำนวณและเผยแพร่ราคาอ้างอิง ซึ่งในการดำเนินการได้มีการกำหนดวิธีการไว้เป็นมาตรฐานและเผยแพร่ให้ทราบเป็นการทั่วไป เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อราคาอ้างอิงว่ามีความโปร่งใส ในอนาคต TFEX และการยางแห่งประเทศไทยจะหารือผู้ประกอบการเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาราคายางที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า (European Union Deforestation Free Regulation หรือ EUDR) เพิ่มเติม รวมทั้ง TFEX จะศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้ราคาอ้างอิงดังกล่าวเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Rubber Futures เพิ่มเติม
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. เปิดเผยว่าไทยถือเป็นผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ของโลก แต่ที่ผ่านมาการอ้างอิงราคายางเพื่อทำสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศยังคงอ้างอิงราคาจากตลาดยางต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อไทยสามารถพัฒนาสูตรการคำนวณเพื่อกำหนดราคาอ้างอิงได้เองจะช่วยให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของเกษตรกรและผู้ผลิตยางพาราไทยได้ กยท.ในฐานะหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของไทยทั้งระบบ ตลอดจนการซื้อขายยางพาราในประเทศและการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราสู่ต่างประเทศ จึงผสานความร่วมมือกับ TFEX ร่วมกันพัฒนาการคำนวณราคาอ้างอิง เพื่อใช้ในการซื้อขายยางของไทยที่มีความโปร่งใสและเป็นมาตรฐานสากล พร้อมเผยแพร่ราคาดังกล่าวสู่สาธารณะ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เป็นฐานในการกำหนดราคาทำสัญญาซื้อขายยางเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ (ราคา FOB) ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยางพารา ทั้งนี้ กยท. มีทำหน้าที่รวบรวมและส่งมอบข้อมูลปริมาณการซื้อขาย ข้อมูลฐานของผลิตภัณฑ์ยางพาราชนิดต่างๆ และข้อมูลจำเป็นอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดกลางยางพาราแต่ละจังหวัด ของ กยท.ให้กับ TFEX และร่วมมือกับ TFEX ในการพัฒนาการกำหนดสูตรคำนวณราคาอ้างอิงและร่วมกันเผยแพร่ราคาต่อไป
“เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานราคาอ้างอิงยางพาราของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นำไปสู่การยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางไทย เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงในอาชีพต่อไปได้” ผู้ว่าการ กยท. กล่าวเพิ่มเติม
นายกรกฎ กิตติพล เลขาธิการสมาคมยางพาราไทย เปิดเผยว่า ตลอด 30 ปี ไทยใช้ราคาอ้างอิงต่างประเทศ มองว่าการใช้ราคาอ้างอิงในการซื้อขายยางพารา (Rubber Reference Price) มาจากต้นทุนการผลิตจริงของประเทศไทย ถือเป็นมิติใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง TFEX กับ กยท. ทำให้มีความโปร่งใส เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการก็จะมีมาจิ้นเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มีข้อเสนอแนะอยากให้ประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบซึ่งราคาวัตถุดิบมีผลต่อเกษตรกร และความน่าเชื่อถือของประเทศไทย หากเป็นราคาวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือก็สามารถนำมาใช้เป็นราคาอ้างอิงได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ TFEX www.TFEX.co.th และเว็บไซต์ กยท. www.raot.co.th.-516.สำนักข่าวไทย