สมาชิกสหกรณ์ห้วยยอด ปลูกไผ่เลี้ยงหวานแซมยางพารา ทำเงินแสนต่อปี

ตรัง 11 ก.ค. – ปลูกไผ่เลี้ยงหวานแซมยางพารา ทำเงินแสนต่อปี อาชีพเสริมรายได้สมาชิกสหกรณ์ห้วยยอด จำกัด จังหวัดตรัง


ราคาปาล์มร่วง ราคายางตกช่วงนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ใด ๆ สำหรับ นายสมศักดิ์ ใสเพี๊ย เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด เจ้าของสวนไผ่เลี้ยงหวาน แห่งบ้านต้นโพธิ์ ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ปลูกไผ่แซมยางพาราเป็นอาชีพเสริม บนเนื้อที่ 20 ไร่ จนสามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน จากการจำหน่ายหน่อและลำไผ่ โดยมีตลาดหลักเจ้าของฟาร์มเลี้ยงกุ้งในจังหวัดตรังและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนหน่อไผ่จำหน่ายที่ตลาดในหมู่บ้าน

โดยจุดเริ่มต้นของการปลูกไผ่เลี้ยงหวานของเขา มาจากการให้คำปรึกษาแนะนำของเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด เมื่อ 5 ปีก่อน ที่ต้องการให้สมาชิกสหกรณ์ฯ มีรายได้เสริม โดยไม่หวังพึ่งพาอาชีพหลักจากราคายางเพียงอย่างเดียว พร้อมแนะนำให้ทำเรื่องขอกู้เงินผ่านโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ (เสริม) สมาชิกสหกรณ์ได้ หากไม่มีเงินทุนเพียงพอ โดยสามารถรณรงค์หาเสียงขอกู้ปีต่อปี ไม่มีอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท


“ไผ่เลี้ยงหวานสีทองปลูกมา 12 ปีแล้ว ปลูกในร่องยาง เนื้อที่ 20 ไร่ ปีนี้กู้สหกรณ์มา 1 แสน ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 200 ต้น ปลูกขายหน่อที่ตลาดใกล้บ้าน กิโลกรัมละ 60 บาท ส่วนลำต้นขายให้นากุ้ง เมตรละ 8 บาท ตัดขายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 800 ต้น ส่งให้เจ้าของนากุ้ง ทั้งในตรังและจังหวัดใกล้เคียง เขาบอกว่า ใช้ไม้ไผ่ต้นทุนจะถูกกว่า ทนทาน มีอายุใช้นาน 5-6 ปี เฉพาะไผ่รายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 20,000 หมื่นบาทต่อเดือน ส่วนเงินที่กู้มาจะเป็นค่าต้นพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าวางท่อน้ำ ตอนนี้พื้นที่แถวนี้มีคนปลูกไผ่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทำรายได้ดี ใช้เวลาปลูกแค่ 8 เดือนก็เก็บหน่อ ตัดลำต้นขายได้แล้ว” นายสมศักดิ์ ใสเพี๊ย เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด เผยการปลูกไผ่เลี้ยงหวาน เป็นอาชีพเสริม

นางสาวพิมศิกรณ์ คีรีรักษ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด กล่าวถึงนายสมศักดิ์ ใสเพี๊ย เกษตรกรสมาชิกที่ปลูกไผ่เลี้ยงหวานว่า เป็นตัวอย่างเกษตรกรสมาชิกที่ดีในการมุ่งมั่นทำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ด้วยการปลูกไผ่เลี้ยงหวาน ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ (เสริม) แก่สมาชิกสหกรณ์ฯ โดยนายสมศักดิ์ได้ทำเรื่องขอกู้กับสหกรณ์ เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา วงเงิน 100,000 บาท เพื่อนำมาลงทุนต่อยอดขยายพื้นที่ปลูกไผ่เลี้ยงหวานแซมยางพารา โดยเขากู้มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งเป็นเงินกู้ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ (เสริม) สมาชิกสหกรณ์ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ระยะเวลากู้ปีต่อปี โดยไม่มีดอกเบี้ยแต่อย่างใด

“จุดเริ่มต้นเลยจะทำอย่างไรให้สมาชิกมีรายได้เพิ่ม นอกจากอาชีพหลักยางและปาล์ม เป้าหมายเราอยากให้สมาชิกชำระหนี้ได้ แต่ไม่อยากให้มีรายได้ทางเดียว เพราะยางและปาล์มราคาก็ไม่แน่นอน จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกันว่า ใครอยากมีอาชีพเสริมอะไรก็เสนอโครงการเข้ามา บางรายก็ปลูกพืชผัก ทำเกษตรผสมผสาน เลี้ยงปศุสัตว์ เลี้ยงหมู ไก่ไข่ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ บางรายก็ปลูกไผ่ ซึ่งโครงการนี้สหกรณ์ได้ดำเนินการ 5 ปีแล้ว มีสมาชิกมาขอกู้เพิ่มขึ้นทุกปี อย่างที่แล้วขอมา 74 ราย ปีนี้มีเพิ่มขึ้นเป็น 94 ราย วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 แสน โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ทุก ๆ ปีจะตั้งงบไว้ที่ 1 ล้าน แต่ปีนี้เพิ่มเป็น 5 ล้าน เพราะสมาชิกสนใจเยอะขึ้น เป็นงบของสหกรณ์ฯ เราเอง ไม่ได้กู้จากภายนอก” ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด ระบุ


เธอยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินโครงการฯ ว่า การยื่นขอกู้ของสมาชิกแต่ละรายจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบและลักษณะโครงการฯ ซึ่งจะมีคณะกรรมการฯ เป็นผู้พิจารณา โดยก่อนจะอนุมัติเงินกู้นั้นจะมีเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจก่อน เพื่อดูความเป็นไปได้สอดคล้องกับจำนวนเงินที่กู้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกขอกู้วงเงินต่ำสุดอยู่ที่ 8,000 บาท ส่วนใหญ่นำไปทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผักสมุนไพร ส่วนรายที่กู้สูงสุด 100,000 บาท มีจำนวน 3-4 ราย นำเงินลงทุนปลูกไผ่เลี้ยงหวาน เลี้ยงวัว เลี้ยงสุกร ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น โดยขณะนี้เงินโครงการฯ จำนวน 5 ล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ นั้นใกล้จะหมดแล้ว โดยสมาชิกที่กู้ทุกรายจะต้องส่งเงินคืนทั้งหมดตามยอดจำนวนที่กู้ไป ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 จากนั้นถ้าสมาชิกรายใดสนใจกู้ต่อก็สามารถมาทำสัญญากู้ฉบับใหม่ได้ในวงรอบของปีถัดไป

ปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสมาชิกจำนวนทั้งสิ้น 4,700 ราย ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน สำหรับรายได้ของสหกรณ์ฯ ส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจบริการ โดยธุรกิจสินเชื่อนั้น สหกรณ์ปล่อยกู้แก่สมาชิกในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากอัตราร้อยละ 3 ซึ่งสัดส่วนเงินกู้กับเงินฝากใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจปั๊มน้ำมันอีก 2 แห่ง ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย อาทิ อุปกรณ์การเกษตรและเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ปุ๋ย ยา เครื่องจักรกลทางการเกษตร เป็นต้น ให้บริการเช่าห้องประชุม ซึ่งสามารถจุคนได้ 700 คน ซึ่งเป็นรายได้หลักของสหกรณ์ในปัจจุบัน และล่าสุดมีการเตรียมจัดทำร้านกาแฟของสหกรณ์อีก 1 แห่งด้วย อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2567 สหกรณ์ฯ มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท (ปิดงบ 31 มีนาคม 2567) มีทุนดำเนินการทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท ส่วนหนี้เสียไม่มี

“สหกรณ์ห้วยยอด มีธุรกิจสินเชื่อทำรายได้หลัก รองลงมาธุรกิจบริการจัดหาสินค้ามาจำหน่าย เราขายทุกอย่าง ร้านทองเราก็มี ตอนนี้มีทั้งหมด 3 สาขา และกำลังจะเพิ่มอีกสาขา อยู่ระหว่างการหาทำเล ต้องบอกว่า สหกรณ์เรามียอดขายของสูงที่สุดในจังหวัดตรัง ขายสินค้าได้เกือบ 100 ล้านต่อปี” นางสาวพิมศิกรณ์ เผย

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด ยังกล่าวขอบคุณสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังที่ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องกฎระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเฉลี่ยเดือน 1-2 ครั้ง ทำให้สามารถช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังส่งเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำในเรื่องส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิก มีการจัดโครงการฝึกอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ในอาชีพแขนงต่าง ๆ ที่สมาชิกสนใจ พร้อมพาไปดูงานตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย

“ปกติเราจะไม่กู้เงินจากภายนอก แต่ปีนี้สหกรณ์ฯ เพิ่งทำเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) จำนวน 4 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่และพัฒนาโปรแกรม ระบบแอปพลิเคชันสหกรณ์ให้ทันสมัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรออนุมัติจากคณะกรรมการ กพส.” นางสาวพิมศิกรณ์ คีรีรักษ์ กล่าว

ด้านนายสงบ เย็นใจ ผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรัง กล่าวถึงโครงการส่งเสริมอาชีพ (เสริม) ให้กับสมาชิกสหกรณ์ใน จ.ตรัง ว่า ขณะนี้มีหลายสหกรณ์ทั้งในและนอกภาคเกษตรได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกรูปแบบ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกให้มีรายได้เพิ่ม โดยเฉพาะสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 60 แห่ง จากทั้งหมด 70 แห่ง ได้ขับเคลื่อนอยู่แล้ว อย่างเช่น สหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด ขณะนี้มีโครงการนำร่องปลูกพริกไทย มีทั้งปลูกจำหน่ายเมล็ดและต้นพันธุ์ มีการแปรรูปแบบครบวงจร หรืออย่างสหกรณ์ฯ ห้วยยอด ก็มีการจัดหาเงินทุนให้กับเกษตรกรสมาชิกเพื่อนำไปประกอบอาชีพเสริม โดยไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งสหกรณ์การเกษตรใน จ.ตรัง ส่วนใหญ่ค่อนข้างพร้อมในเรื่องเงินทุนสำหรับการส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิก จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บริการเงินกู้จากภายนอกมากนัก

“สหกรณ์ฯ ตรังที่ไม่กู้กรมฯ ก็มีอยู่หลายแห่งที่ไม่กู้ เพราะเขามีเงินเพียงพอ อย่างสหกรณ์ห้วยยอดไม่กู้ วังวิเศษก็ไม่กู้ แต่ปีนี้ห้วยยอดขอกู้เงิน กพส.ไป 4 ล้าน เพื่อพัฒนาโปรแกรม ระบบแอปพลิเคชันในสหกรณ์ฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ สหกรณ์ย่านตาขาวทำไปแล้วเมื่อปีก่อน ภาคเกษตรช้ากว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ตำรวจ เขาทำไปก่อนแล้ว เพราะเขามีความพร้อม ส่วนตลาดจำหน่ายผลผลิตพืชผลสีเขียวสหกรณ์ ตอนนี้ห้วยยอดยังไม่มี สมาชิกต่างคนต่างขายกันเอง สหกรณ์ฯ เมืองมีแล้วจัดทุกวันพุธ ย่านตาขาวมีแล้วจัดทุกวันพฤหัสฯ ปีนี้จะต้องโฟกัสตรงนี้มากขึ้น” ผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรัง กล่าวย้ำ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. จ่อออกแถลงการณ์ ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว คลี่คลายความตึงเครียด […]

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มาตรการภาษี ‘ทรัมป์’ ยังบังคับใช้

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางมีคำสั่งในวันพฤหัสบดี ให้มาตรการภาษีตอบโต้ที่ครอบคลุมมากที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งเป็นการชั่วคราว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ตัดสินว่านายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเรียกเก็บภาษีเหล่านั้นและสั่งให้ระงับมาตรการภาษีดังกล่าวทันที ศาลอุทธรณ์กลางแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำเขตวอชิงตัน ระบุว่ากำลังระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล และมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีในคดีนี้ยื่นเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกฟ้องร้องหรือเป็นผู้กำหนดภาษี ให้ส่งเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 9 มิถุนายน นายทรัมป์เขียนแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขาหวังว่าศาลฎีกาของสหรัฐจะ ‘กลับคำตัดสินอันเลวร้ายที่คุกคามประเทศ’ ของศาลการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตุลาการของรัฐบาลว่า ‘เป็นปฏิปักษ์ต่ออเมริกา’ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าระหว่างประเทศ ตัดสินว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่รัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี ในการเรียกเก็บภาษีและอากรศุลกากร และประธานาธิบดีได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยการอ้างใช้กฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ.-813.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]