กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – กรมสรรพสามิตปูพรมจับบุหรี่เถื่อนเชิงรุกทั่วประเทศ ค่าปรับ 46 ล้านบาท ลุยสกัดตั้งแต่ต้นทาง พร้อมใช้เทคโนโลยียกระดับการปราบปราม
ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายลักลอบนำเข้า โดยไม่ได้เสียภาษี โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ช่วยในการตรวจสอบ ณ สำนักงานไปรษณีย์ ศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าเอกชน เพื่อตรวจสอบรถขนส่งสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและเป็นการตัดตอนเส้นทางการส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เช่น ภาคเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์ ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดชุมพร และภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดปราจีนบุรี รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ตามพื้นที่เป้าหมายทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และเขตพื้นที่เสี่ยงต่างๆ
ผลจากการปฏิบัติงานการปราบปรามเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค ที่มีการลงพื้นที่ปูพรมปราบปราม ผู้กระทำผิดทั่วประเทศ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 67 กรมสรรพสามิตสามารถจับผู้ลักลอบค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ได้ใน 4 พื้นที่ รายละเอียดดังนี้
1.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 ร่วมบูรณาการในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.บก.สสภ.8 จับกุมคดียาสูบ จำนวน 1 คดี สถานที่เกิดเหตุตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลางในคดี ดังนี้ (1) บุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน (ของกลางมีทั้งหมด 17 รายการ) จำนวน 18,750 ซอง (2) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ sms Red ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 1,500 ซอง (3) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ Wonder S Green ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 500 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 20,750 ซอง (4) รถยนต์นั่งยี่ห้อ Honda jazz จำนวน 1 คัน (5) กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ชุด ประมาณค่าปรับ 19,546,500 บาท
2.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.บก.สสภ.8 ร่วมกันตรวจยึดของกลางในคดี (ไม่มีตัวผู้กระทำผิด) สถานที่เกิดเหตุที่ทำการไปรษณีย์ ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้ (1) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อกรองทิพย์ 90 ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 2,000 ซอง (2) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ Wonder S Green ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 500 ซอง (3) บุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ (ของกลางจำนวน 9 รายการ) จำนวน 13,500 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 16,000 ซอง ประมาณการค่าปรับ 15,011,313 บาท
3.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครสวรรค์ ตรวจยึดพัสดุสินค้ายาสูบที่ไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิต มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้ (1) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อกรองทิพย์ 90 ซองแข็ง จำนวน 180 ซอง (2) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อกรองทิพย์ 90 ซองธรรมดา จำนวน 4,490 ซอง (3) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ TEXAS 5 จำนวน 3,990 ซอง (4) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ CAPITAL จำนวน 200 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 8,860 ซอง ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ส่งพัสดุสินค้ายาสูบ ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 7,673,540 บาท
4.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม ฝ่ายป้องกันและปราบปราม 3 สายตรวจสรรพสามิตที่ 3.3 บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต จำนวน 1 ราย คดียาสูบบุหรี่ซิการ์ต่างประเทศ ของกลางจำนวน 2,359 มวน ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 3,892,350 บาท
ดร.นิตยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าเหล่านี้หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต เรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน จากสินค้าปลอม หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th.-515-สำนักข่าวไทย