ร้อยเอ็ด 5 มี.ค.- ชาวไร่ยาสูบอีสานร้อง “รมว.กลาโหม” ช่วยสั่งการทหารทุกเหล่าทัพปราบบุหรี่เถื่อนตามแนวชายแดนทั้งทางบก-ทะเล หลังพบขายเกลื่อนในหลายจังหวัดพื้นที่ปลูกยาสูบภาคอีสาน
ตัวแทนสมาคมการค้าชาวไร่ยาสูบเตอร์กีซภาคอีสาน ได้ยื่นหนังสือต่อ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเรียกร้องให้มีการสั่งการไปยังทหารทุกเหล่าทัพในการร่วมกันปราบปราม และจับกุมบุหรี่เถื่อนตามแนวชายแดน ทั้งทางบก และทางทะเลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะทางบกในภาคตะวันออก และทางทะเลในภาคใต้ ที่เป็นช่องทางที่สำคัญของการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทย ซึ่งกินส่วนแบ่งการตลาดไปเกือบถึง 1 ใน 4 ของตลาดยาสูบปัจจุบัน
นายสันต์ หารสุโพธิ์ ตัวแทนชาวไร่ยาสูบอีสาน กล่าวว่า นายสุทิน เป็น สส. ที่ช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ตนและพี่น้องชาวไร่ยาสูบหวังว่า นายสุทิน จะคอยช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานต่อไป เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมยาสูบอ่อนแอมาก จากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่รุกหนัก กระทบถึงความเป็นอยู่ของชาวไร่ยาสูบที่พึ่งพาโควตาการปลูกจากการยาสูบแห่งประเทศไทย แต่เมื่อบุหรี่ถูกกฎหมายสู้บุหรี่เถื่อนไม่ได้ โควตาก็ไม่เพิ่ม การปลูกยาสูบหมุนเวียนกับพืชชนิดอื่นก็ทำให้รายได้ที่ควรได้ในช่วงนี้หายไป โดยปกติแล้วจะใช้เป็นเงินสำรองด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงภาคการศึกษาใหม่ที่กำลังจะมาถึง ตนและสมาชิกสมาคมฯ จึงหวังพึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ช่วยสั่งการเรื่องนี้ลงไปยังเหล่าทัพต่างๆ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้พูดคุย กับ น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย และได้รับปากกับชาวไร่ยาสูบ ว่าจะเร่งรัดดำเนินการเพื่อช่วยเหลือปราบปรามเรื่องของบุหรี่เถื่อน รวมทั้งจะนำหนังสือของชาวไร่ยาสูบนำเรียนและชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป
“ที่ผ่านมามีการจับกุมบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ แต่ชาวไร่ยาสูบมองว่า หากมีการจับกุมตั้งแต่ช่วงการนำเข้าตามพรหมแดนธรรมชาติทั้งทางบก และทางทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้การดูแลของทหาร จะช่วยลดการแพร่กระจายของบุหรี่เถื่อนในประเทศได้ เพราะเมื่อข้ามชายแดนมาได้แล้วก็ไม่ยากเลยที่จะกระจายสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้ไปตามที่ต่างๆ ผ่านพัสดุไปรษณีย์หรือขนส่งทางบก“ นายสันต์ กล่าว
นายสันต์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันในพื้นที่ภาคอีสานมีชาวไร่ยาสูบประมาณ 15,000 ครัวเรือนใน 8 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, นครพนม, สกลนคร, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และหนองคาย ปลูกยาสูบพันธุ์เตอร์กีซเป็นหลัก โดยฤดูกาลปลูกจะเริ่มในช่วงต้นเดือน พ.ย.จนถึงเดือน เม.ย. การปลูกยาสูบเตอร์กิซจะช่วยสร้างรายได้ให้ชาวไร่ยาสูบเฉลี่ยไร่ละ 16,000 บาท ทำให้ชาวไร่ยาสูบมีหลักประกันรายได้ที่มั่นคงเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง และสามารถนำเงินไปลงทุนทำการเกษตรหมุนเวียนพืชอื่นๆ ในฤดูฝนถัดไป รวมถึงเพียงพอต่อการดำรงชีพของครอบครัวด้วย.-316 -สำนักข่าวไทย