สกลนคร 10 ม.ค. – คดีฆาตกรรมอำมหิต ลูกชาย เปิดปากสารภาพ หลอกพ่อกับน้องสาวลงไปในกล่องเหล็ก ก่อนถีบกล่องลงน้ำ ปล่อยให้ตายทั้งเป็น ยันไม่ได้ป่วยจิตเวช มีสติดี ไม่พบสารเสพติด
คดีที่เป็นข่าวใหญ่ของเมื่อวาน (9 ม.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ไปงมกล่องเหล็กขนาดเท่าตัวคน 2 ใบในสระน้ำของหมู่บ้านสร้างขุ่ย อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ถูกมัดด้วยโซ่ 2-3 ชั้น ล็อกกุญแจแน่นหนา แต่มีขาคนโผล่ออกมาจากส่วนที่ไม่ได้ปิดทึบ และเมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบร่างของนายประหยัด อายุ 66 ปี และนางสาวเพียงเพ็ญ อายุ 33 ปี พ่อและน้องสาวของนายวรุตย์ ผู้ต้องสงสัย ที่ยืนอยู่ในบริเวณดังกล่าว แต่พูดจาวกวนไม่ยอมให้ปากคำกับตำรวจ
ตอนนั้นตำรวจยังเร่งหาพยานหลักฐานว่าใครเป็นคนลงมือ กระทั่งไปได้ข้อมูลจากร้านเหล็กในพื้นที่อำเภอสว่างแดนดินสถานที่ใกล้บ้านของนายวรุตม์ ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวได้ไปสั่งทำกล่องแบบพิเศษ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน โดยบอกร้านว่า กล่องแรกให้ยาว 1.80 เมตร อีกกล่องให้ยาว 1.90 เมตร แต่ไม่ต้องปิดกล่องทึบ อ้างว่าจะเอาไปใส่กล่องตกปลา และทำคอนเทนต์ แถมมานั่งเฝ้านั่งดูกล่องด้วยตัวเองด้วย ซึ่งร้านเหล็กยังเก็บหลักฐานใบเสร็จการสั่งซื้อไว้ด้วย
เมื่อไปไล่กล้องวงจรปิด ก็เห็นรถบรรทุกมีการขนย้ายกล่องไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม สอบถามนายพงษ์พัฒน์ อินธิจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านสร้างขุ่ย อีกครั้ง ก็ได้ข้อมูลเพิ่มว่า ช่วงบ่าย 2 วันที่ 8 ได้ออกตรวจระบบประปาหมู่บ้าน สังเกตเห็นบริเวณสระน้ำมีแท่นเหล็กยกสูงจากน้ำ และมีกล่องเหล็กใบใหญ่ 2 ใบวางอยู่ด้านบน ตอนนั้นก็แปลกใจจึงถ่ายรูปไว้ แต่เมื่อไปถามลูกบ้านก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นอะไร หรือเป็นของใคร กระทั่ง 5 ทุ่ม มีลูกบ้านมาแจ้งว่า ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนทะเลาะกันบริเวณสระน้ำ ก็พบนายวรุตม์ยืนอยู่คนเดียว ใกล้กับรถยนต์ที่จอดนิ่งสนิทอยู่ ซึ่งนายวรุตย์ยังยืนยันไม่มีอะไร มากับครอบครัว แต่คนอื่นกลับที่พักไปแล้ว ผู้ใหญ่บ้านรู้สึกเอะใจ มองไปที่แท่นกลางสระน้ำ ที่เจอตอนกลางวันก็พบว่ากล่องเหล็กขนาดใหญ่หายไปทั้ง 2 ใบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านยังบอกด้วยว่า ภายหลังนายวรุตย์ถูกเค้นสอบอย่างหนัก แม้จะยังพูดจาวกวน แต่ก็เปิดปากว่า เป็นคนหลอกพ่อกับน้องสาวลงไปในกล่อง โดยบอกว่าให้ทดลองลงไปนอน เพราะอยากรู้ว่า ถ้าให้คนหาปลาเข้าไปนอนข้างในจะรู้สึกยังไง และทันทีที่พ่อกับน้องลงไปในกล่อง ก็ผลักกล่องลงน้ำทันที แต่การพูดยอมรับว่าฆ่ากับน้องอย่างอำมหิตนี้ พูดเหมือนไม่ได้สำนึก เพราะอ้างว่า พ่อกับน้องเชื่อผมเอง
เมื่อทุกอย่างสอดคล้องทั้งพยานและหลักฐาน ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหากับนายวรุตม์ คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ข้อหาทารุณกรรม เหตุเพราะหากผลักกล่องลงน้ำทันทีที่พ่อกับน้องเข้าไปอยู่ในกล่อง เท่ากับว่าทั้งคู่ยังมีชีวิตขณะจมลงในน้ำ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด และประเด็นว่าป่วยจิตเวชหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจประวัติการรักษา รวมถึงหามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ เพราะญาติบอกว่า นายประหยัด (พ่อ) เป็นคนนิสัยดี แต่เคยมีปากเสียงกับนายวรุตย์ และมีข่าวลือว่ามีปัญหากันเรื่องมรดก ส่วนน้องตั้งแต่เด็กเคยพลัดหลงกับครอบครัว ทำให้ตั้งแต่นั้นมามีสภาพจิตใจไม่ค่อยปกติ
ขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตทั้งคู่ ตอนนี้ถูกส่งไปวัดป่าศรีสว่าง อำเภอสว่างแดนดิน บ้านเกิด ซึ่งญาติๆ ได้ทำการฌาปนกิจศพทันที เพราะเป็นความเชื่อในแถบภาคอีสานว่า หากมีการเสียชีวิตผิดธรรมชาติต้องรีบทำพิธีทันที ส่วนที่หมู่บ้านสร้างชุ่ย ได้นิมนต์พระสงฆ์มาปัดเป่าสิ่งไม่ดี และเสริมสิริมงคลให้กับหมู่บ้าน พร้อมจัดพิธีบายศรี เรียกขวัญผูกข้อมือให้กับชาวบ้าน
และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พันตำรวจเอกโชคชัย อินทะนิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ตั้งโต๊ะแถลงถึงคดีอำมหิตนี้ ยืนยันล่าสุดนายวรุตย์ให้การสารภาพ หลอกพ่อกับน้องลงไปกล่อง ส่วนมูลเหตุจูงใจ เป็นเรื่องของมรดก
ส่วนการเอาผิดเรื่องการไตร่ตรอง ตำรวจมีหลักฐานสำคัญ คือ การติดล้อที่กล่องเหล็ก โดยผู้ต้องหาคิดว่าเมื่อเอาพ่อกับน้องสาวใส่ไปในกล่องเหล็กได้แล้ว จะได้เลื่อน ผลักลงน้ำได้เลย เท่ากับว่าเป็นการวางแผน นอกจากนี้ยังหลอกพ่อว่าให้ไปดูทำเลที่จะทำบ่อตกปลา เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ ทำให้พ่อหลงเชื่อตามไปด้วย
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมพ่อจึงเข้าไปในกล่องเหล็กได้ ก็เป็นเพราะผู้ต้องหาหลอกพ่อว่า ไวท์บอร์ดพลาสติกที่บุฟิวเจอร์บอร์ดที่กล่องเหล็ก หากไปสัมผัสความร้อนตัวร่างกายมนุษย์จะพองตัวขึ้น สามารถทำเป็นที่นอนได้ พร้อมบอกพ่อกับน้องสาว หากไม่เชื่อให้ไปลองนอนดู พอพ่อกับน้องหลงเชื่อเข้าไปนอน ก็ใช้โซ่มัด แล้วล็อกกุญแจกล่อง ก่อนผลักลงน้ำ แต่อ้างว่าผลักลงน้ำไปได้ 5 นาที เกิดสำนึก แต่ก็ช่วยไม่ทันแล้ว และยืนยันไม่ได้ป่วยจิตเวช มีสติสัมปชัญญะดี รู้ผิดชอบชั่วดีในการกระทำความผิด ขณะที่การตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติด และวันนี้จะคุมตัวส่งศาลฝากขัง .-สำนักข่าวไทย