​เตรียมปรับอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด สถานีบริการน้ำมันทั่วไทยใหม่

กรุงเทพฯ 9 ม.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุสัปดาห์นี้จะประชุมคณะกรรมการชั่งตวงวัด พิจารณาหลักเกณฑ์การตรวจรับรองและตรวจสอบความเที่ยงตรงปริมาณน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศใหม่ โดยจะปรับอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด หรืออัตราความคลาดเคลื่อนให้แคบลง และเพิ่มความถี่การตรวจสอบ


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ​ ได้เข้าตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันในบริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อตกลงกับผู้ประกอบการค้าน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน ที่จะร่วมกันตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันทุกเครื่องเป็นประจำทุกเดือน ให้มีความเที่ยงตรงและเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด พบว่าผู้ประกอบการค้าน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น ปตท. พีที บางจาก เชลล์ หรือซัสโก้ ก็มีการปฏิบัติที่ถูกต้องตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ ไม่พบหัวจ่ายน้ำมันเครื่องใดมีความคลาดเคลื่อน และผู้ประกอบการทุกรายก็ยืนยันว่าเข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะความถูกต้องเที่ยงตรงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดแล้วก็ยึดถือมาโดยตลอด และผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นลูกค้าที่สุด

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้จากเครื่องหมายคำรับรองซึ่งจะมีการปิดผนึกทั้งในส่วนของตู้ด้านนอกและในส่วนของอุปกรณ์ภายในตู้ ซึ่งหากชุดผนึกนี้มีการแตกหักเสียหายก็จะถือว่ามีความผิดตามกฏหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่าปริมาณน้ำมันคลาดเคลื่อนไม่เป็นไปตามกฎหมายโดยมีเจตนาแก้ไขดัดแปลงหัวจ่ายให้เกิดความคลาดเคลื่อนก็จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท


​สำหรับการพิจารณาหลักเกณฑ์การตรวจรับรองและตรวจสอบความเที่ยงตรงนั้นก็จะมีการปรับอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดหรืออัตราความคลาดเคลื่อนให้แคบลงและเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบให้คำรับรองให้มากขึ้น เพื่อให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะได้มีการประชุมคณะกรรมการชั่งตวงวัดเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ เห็นการกระทำผิด หรือมีข้อสงสัยว่ามีการแก้ไขดัดแปลงหัวจ่ายโดยมีเจตนาให้เติมน้ำมันแล้วไม่เต็มลิตร สามารถแจ้งทางสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 สำนักงานพาณิชย์ หรือสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่

นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายสินค้า Mobile ธงฟ้าราคาประหยัด ณ ชุมชนแฟลตตำรวจนครบาลวิภาวดี เขตจตุจักร มีการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพจำนวน 94 รายการ เช่น ไข่ไก่คละใหญ่ แผงละ 95 บาท น้ำมันพืชขวดละ 40 บาท ข้าวขาวถุงละ 5 กก. 115 บาท และน้ำตาลทรายถุงละ 22 บาท เป็นต้น ส่วนลดสูงสุด 55% เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่พี่น้องประชาชนตามนอกจากนี้ ยังได้มีการนำหอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษไปจำหน่ายเพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่ ซึ่งช่วยในการบริหารจัดการผลผลิตให้พี่น้องเกษตรกรผู้เพาะปลูกหอมแดงได้รับราคาดีที่สุด.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว

นายกฯสิงคโปร์เยือนไทย

นายกฯ ต้อนรับนายกฯ สิงคโปร์ ร่วมเปิดศักราชความสัมพันธ์ 60 ปี

“แพทองธาร” นายกฯ ต้อนรับนายกฯ สิงค์โปร์ อย่างสมเกียรติ พร้อมแถลงข่าวร่วมเปิดศักราชความสัมพันธ์ 60 ปี ไทย-สิงคโปร์ ผลักดันการลงทุนสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมโยงอาเซียน มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมั่งคั่งร่วมกัน

น้ำท่วมใต้

น้ำท่วม จ.สตูล ขยายวงกว้าง นราฯ อ่วมทั้งจังหวัด

น้ำท่วม จ.สตูล เช้าวันนี้ขยายวงกว้าง หลากเข้าย่านเศรษฐกิจของตำบลฉลุง ชาวบ้านเริ่มเครียด เพราะปีนี้น้ำท่วมหนักเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ส่วน นราธิวาส น้ำท่วมทั้งจังหวัด ประชาชนเดือดร้อน 1.5 แสนคน