กรุงเทพฯ 5 ม.ค.- อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเผย ผลการตรวจติดตามไอระเหยจากเหตุรถบรรทุกสารเคมี Aluminum Phosphide ไฟไหม้คืนที่มา ไม่พบไอระเหยตกค้างแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีรายงานผลกระทบทางสุขภาพ ย้ำจะกำกับการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองวัตถุอันตรายอย่างเคร่งครัด
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากเหตุรถกระบะของบริษัท บริษัท ทีซีไอเอส อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บรรทุกสารเคมีชื่อ Aluminum Phosphide ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูผลิตผลทางการเกษตรเช่น มอด ปลวก เป็นต้น บรรจุในถัง 200 ลิตร เกิดการรั่วไหลและเกิดควันบริเวณถนน ซอยพรสว่าง 7 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
ทั้งนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยจากข้อห่วงใย พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สั่งการให้คพ. ตรวจสอบผลกระทบในพื้นที่เกิดเหตุและให้ข้อแนะนำประชาชนด้านสุขภาพโดยเร่งด่วน
คพ. ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อได้รับแจ้งเหตุ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งให้ประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงและด้านท้ายลมอพยพในช่วงเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 20.00 น. ส่วนการจัดการสารเคมีที่หกรั่วไหล สามารถเก็บกู้ได้แล้วเสร็จประมาณเวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2567 โดยเก็บขนไปจัดเก็บที่โรงงานเจ้าของสารเคมีเพื่อส่งไปกำจัดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง สารเคมี Aluminum Phosphide บรรจุในถัง 200 ลิตร โดยมีอยู่ในถังประมาณ 100 ลิตร
เช้าวันนี้ (5 มกราคม 2567) คพ. ลงพื้นที่ตรวจสอบการตกค้างสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยของสารเคมีตกค้างในพื้นผิวถนน โดยเทศบาลตำบลสำโรงเหนือได้นำรถฉีดน้ำทำความสะอาดพื้นผิวจราจรในซอยดังกล่าวแล้ว อีกทั้งไม่พบสารเคมีตกค้างในท่อระบายน้ำ ไม่พบกลิ่นสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุและชุมชนใกล้เคียง ผลการตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุและบ้านเรือนประชาชนด้านท้ายลม (ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้) ในระยะ 50 เมตร และ 200 เมตร พบว่า ตรวจไม่พบสารฟอสฟีน
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าและเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ ไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้สอบถามประชาชนในพื้นที่ด้านท้ายลมพบว่า ไม่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพแต่อย่างใด เนื่องจากมีการแจ้งเตือนให้อพยพและปิดประตูหน้าต่างในช่วงเกิดเหตุ โดยประชาชนบริเวณที่เกิดเหตุสามารถกลับเข้าสู่ที่พักและสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติแล้ว
คพ. มีข้อแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัว หากเกิดเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล ควรอพยพประชาชนไปอยู่ที่เหนือลม อยู่ในอาคารที่ปกปิดมิดชิด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีความเสี่ยง ควรสวมใส่หน้ากากกรองชนิดคาร์บอน (Carbon Mask) เมื่อสัมผัสกับสารให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนทิ้ง และชำระร่างกาย และหากมีความผิดปกติควรรีบพบแพทย์
ทั้งนี้ คพ. จะกำกับการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองและใช้สารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายอย่างเคร่งครัดต่อไป.- 512 – สำนักข่าวไทย