กรุงเทพ 27 ธ.ค.-น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย อัปเดตเส้นทางน้ำท่วมบนทางหลวง ผ่านไม่ได้เหลือเพียง 5 แห่ง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน 24 ชม.
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในขณะนี้ ส่งผลให้ทางหลวงบางเส้นทางมีน้ำท่วมสูงเป็นเหตุให้ไม่สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน สำหรับเส้นทางที่น้ำลดแล้วได้มีการสำรวจความเสียหายของถนนและระบบระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เวลา 15.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส, จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี จำนวน 7 สายทาง 9 แห่ง ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง ดังนี้
1.จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 แห่ง
– บนทางหลวงหมายเลข 4168 ตอน ต้นไทร – ปะลุกาสาเมาะ ในพื้นที่ อ.บาเจาะ ช่วง กม.0+000 – 0+900 ระดับน้ำ 50 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงบ้านมะยูง ถนนของ อบต. ทางเข้าตรงกับ กม.163+000 ด้านขวาทางบนทางหลวงหมายเลข 00420301 พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย
- จังหวัดปัตตานี จำนวน 4 แห่ง
- บนทางหลวงหมายเลข 4092 ตอน สายบุรี – กะรุบี ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ช่วง กม.17+000 – 17+300 ระดับน้ำ 100 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย
- บนทางหลวงหมายเลข 4092 ตอน จะร้งตาดง – มายอ ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ช่วง กม.19+085 – กม.19+700 ระดับน้ำ 40 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย
- บนทางหลวงหมายเลข 4060 ตอน สายบุรี – กะรุบี ในพื้นที่ อ.สายบุรี ช่วง กม.2+750 – 11+000 ระดับน้ำ 40 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย
- บนทางหลวงหมายเลข 42 ตอน ปาลัส – กอตอ ในพื้นที่ อ.สายบุรี ช่วง กม.149+000 – 152+000 ระดับน้ำ 40 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่เว็บไซต์กรมทางหลวง www.doh.go.th.- สำนักข่าวไทย -513