กทม.19 ก.ค.- อัยการพร้อมรับตัว “เณรคำ” เพื่อส่งฟ้องต่อศาล หลังสหรัฐส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีที่ไทยใน 2 คดีที่เกี่ยวกับเพศและฉ้อโกงประชาชน
เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางการสหรัฐได้ส่งตัวนายวิรพล สุขผล หรือเณรคำ หรือหลวงปู่เณรคำ อดีตประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน และตามสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามที่อัยการยื่นคำร้องไป
สหรัฐจับตัวเณรคำได้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 และศาลชั้นต้นรัฐบาลกลางแห่งแคลิฟอร์เนียมีคำสั่งให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเณรคำไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ในการรับตัวเณรคำ สำนักงานอัยการสูงสุด มอบหมายเจ้าหน้าที่อัยการร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เดินทางเป็นคณะไปรับตัวที่สหรัฐ
สำหรับเณรคำ ดีเอสไอดำเนินคดี 2 ฐานความผิด รวม 5 ข้อหา คือพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เพื่อการอนาจารฯ, กระทำชำเราและอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ส่วนอีกคดีคือ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ซึ่งอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้พิจารณาทั้งสองสำนวนคดี แล้วมีความเห็นสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้และมีคำสั่งให้ติดตามตัวเณรคำมาฟังคำสั่งและยื่นฟ้องต่อศาล ดีเอสไอจึงขอศาลออกหมายจับ แต่เณรคำหนีไปสหรัฐ จึงขอทางการสหรัฐส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
เรือโทสมนึก กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเณรคำออกจากสหรัฐเมื่อเวลา 03.00 น. เครื่องลงที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เวลา 14.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่รอรับและต่อเครื่องมาประเทศไทย ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และทางสหรัฐขอให้ดำเนินการกับผู้ต้องหาตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย สำหรับคำถาม นายวิรพลยังถือว่าเป็นพระหรือไม่ และแต่งกายแบบใดขณะถูกควบคุมตัว โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดบอกไม่ทราบ เพราะไม่ได้สอบถามประเด็นนี้ ส่วนเมื่อมาถึงประเทศไทยจะให้แต่งกายแบบใด ขึ้นกับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ
ด้านนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า เณรคำมีลูกศิษย์ที่สหรัฐ และการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าช่วงแรกของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจนกว่าทางการไทยจะได้รับตัวเณรคำ เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจมีกลุ่มคนมาคัดค้านได้ และจากคำสั่งศาลที่สหรัฐ เณรคำได้ต่อสู้ว่าข้อกล่าวหาเรื่องความผิดเกี่ยวกับเพศมีการถอนฟ้องไปแล้ว อัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ คดีนี้เกิดจากผู้เสียหายไปยื่นฟ้องที่ศาลด้วยตัวเอง และไปขอถอนคำร้องทุกข์ ซึ่งดีเอสไอสอบสวนพบว่ามีผู้ว่าจ้างให้ยื่นฟ้องและถอนฟ้องคดี
เณรคำยังได้ต่อสู้ความผิดฐานฉ้อโกงว่าไม่ใช่ความผิดต่อรัฐ โดยระบุว่าเงินที่ได้เป็นเงินบริจาคและทำบุญตามสิทธิเสรีภาพของบุคคล ไม่ผิดกฎหมาย อัยการจึงชี้แจงถึงรายละเอียด ว่าเณรคำนำเงินบริจาคที่ประชาชนหวังให้ไปสร้างศาสนสถานไปใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนเหตุผลที่เณรคำไม่อุทธรณ์คดี เป็นเหตุผลส่วนตัว แต่ทราบว่าการต่อสู้คดีที่สหรัฐมีค่าใช้จ่ายสูง หากเณรคำมาถึงประเทศไทย ดีเอสไอจะสอบสวน ตรวจประวัติอาชญากรรม ก่อนส่งตัวให้อัยการที่พร้อมรับตัวและเตรียมคำฟ้องเรียบร้อย สามารถส่งสำนวนฟ้องพร้อมเณรคำต่อศาลได้ทันที.-สำนักข่าวไทย