กรุงเทพฯ 20 ก.ค.-หลังจากที่ดีเอสไอส่งตัวผู้ต้องหา “อดีตเณรคำ” และสำนวน มายังสำนักอัยการสูงสุดจำนวน 2 คดี รวม 6 ข้อหา เมื่อพิจารณาความทั้งหมด “อดีตเณรคำ” จะต้องโดนดำเนินการทางกฏหมายในเรื่องอะไรบ้าง
แปลกตาทีเดียวสำหรับภาพการนุ่งขาวห่มขาวของนายวิรพล สุขผล หรือที่รู้จักในนามเณรคำ อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี และฉ้อโกงประชาชน มาส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เพื่อรอคำสั่งฟ้อง หลังหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศนานหลายปี ก่อนจะถูกนำมาตัวกลับมาต่อสู้คดีที่ประเทศบ้านเกิด
โดยเช้านี้พนักงานสอบสวนจากดีเอสไอส่งตัวนายวิรพล พร้อมคำให้การชั้นสอบสวนของผู้ต้องหา 2 คดี คือ ฉ้อโกง และพรากผู้เยาว์ โดยแยกย่อยเป็น 6 ข้อหา มาให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ตรวจสอบพยานหลักฐาน ก่อนมีความเห็นสั่งฟ้อง
ในส่วนคดีแรก เกี่ยวข้องกับพรากผู้เยาว์ อัยการสั่งฟ้องในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปทำอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง ทั้ง 2 ข้อหามีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และในคดีนี้มีข้อหาที่ขาดอายุความไป 2 ข้อหา คือ อนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไป เพื่ออนาจาร
ส่วนคดีที่ 2 คือ คดีฉ้อโกง แยกย่อยเป็น 1.ฉ้อโกงประชาชน โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี 2.ฟอกเงิน โทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และ 3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ อัยการสั่งฟ้องทั้งหมด โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี โดยในข้อหาฉ้อโกงประชาชน อัยการยังมีคำขอให้จำเลยคืนทรัพย์สินและเงินจำนวนกว่า 28 ล้านบาท ให้ผู้เสียหาย 29 คนด้วย
แต่เมื่ออัยการนำคำฟ้อง พร้อมนายวิรพล ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา อดีตเณรคำ กลับให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าหา ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกฟ้อง เมื่อเป็นเช่นนี้ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองคดีใหม่อีกครั้ง น่าติดตามว่าการต่อสู้ยกที่สองในคดีนี้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ในวันที่ 18 กันยายนนี้.-สำนักข่าวไทย