ลพบุรี 22 ก.ย. – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เตรียมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็นลำดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน หลังมีแนวโน้มน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดระดับน้ำแม่น้ำป่าสักอาจเพิ่มขึ้น 1.50 – 1.80 เมตรและส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงการระบาย แต่เฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุน้ำเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ออกหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แจ้งเตือนประชาชนถึงความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากมีปริมาณน้ำในอ่าง 743 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 77ของความจุอ่างฯ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน 662 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 57 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยยังคงมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม กรมชลประทานจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยทยอยเพิ่มวันละ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
การปรับเพิ่มการระบายน้ำดังกล่าว คาดว่า จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1.50 – 1.80 เมตร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดเช่น
- ตลาดน้ำต้นตาล ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
- ต.แสลงพัน อ.วังม่วง จ.สระบุรี
- ต.แก่งเสือเต้น และ ต.หินซ้อน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
- ชุมชนวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะเดียวกันยังคงอัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที โดยบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด
กรมชลประทานยังคงติดตามสถานการณ์ฝนตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า ในสัปดาห์นี้จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ปัจจุบันที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,316 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น หากมีฝนตกลงมาเติม อาจต้องปรับเพิ่มอัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตามที่แจ้งต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ไว้ในอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ กรมชลประทานขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า. 512 – สำนักข่าวไทย