ผบ.ตร.สั่งเร่งรัดทำคดีอดีตทูตเสียชีวิตในบ้านพัก

กทม. 8 ต.ค.-ผบ.ตร.สั่งเร่งรัดทำคดี เหตุอุกฉกรรจ์ หลังพบอดีตทูตถูกฆ่าเสียชีวิตภายในบ้านพักหรูกลางกรุง   


เช้านี้ตำรวจสน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งมีกลิ่นต้องสงสัยในบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านหรู ซอยวิภาวดี 20 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพเป็นชายไทยอายุประมาณ 63ปี อดีตเอกอัครราชทูต (ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก) เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำชั้น 2 สภาพศพถูกกล่องกระดาษปิดบังร่าง คาดเสียชีวิตไม่ตํ่ากว่า 3 วัน ตรวจพิสูจน์ศพเบื้องต้นมีร่องรอยบาดแผลถูกแทงที่หน้าอก 3 แผล พบอาวุธมีทำครัว 2 เล่ม เปื้อนเลือดในที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในห้องครัวชั้นล่าง โดยอยู่ในกล่องไม้เก็บมีดทั้งหมด 5 เล่ม เจ้าหน้าที่ พฐ.ดึงมีดออกมาตรวจพบคราบเลือดติดอยู่ 2 เล่ม

จากการซักถามญาติเบื้องต้นทราบว่า ไม่สามารถติดต่อกับผู้ตายได้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา โดยวันนี้ช่างได้เข้ามารีโนเวทบ้าน เป็นคนเดียวซึ่งมีกุญแจไขเข้าไปพบศพ เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้โทรรายงานให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบแล้ว กำชับเร่งรัดทำการสอบสวนในคดีนี้เนื่องจากว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พร้อมกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เชิญพยานผู้ใกล้ชิด พบว่าผู้เสียชีวิตมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.66 มีหลักฐานส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยง แต่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่เป็นญาติและกลุ่มบุคคลใกล้ชิดที่มาอาศัยที่บ้านหลังนี้ซึ่งเป็นช่างได้เชิญมาซักถามปากคำ แต่เนื่องจากเป็นเยาวชนจะต้องเชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำด้วย โดยตำรวจเร่งสืบสวนติดตามคดีนี้ให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นยังไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าเยาวชนที่เชิญมามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด


ทั้งนี้ พบมีการรื้อค้นทรัพย์สินบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 เชื่อว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ ปกติผู้เสียชีวิตพักอยู่คนเดียว ก่อนหน้านี้พักอยู่คอนโดฯ และย้ายมาที่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 ก.ย.เบื้องต้นไม่มีร่องรอยการงัดแงะที่ประตูด้านหน้า ส่วนประตูทางเข้ามีร่องรอยกระเซ็นของเลือดตั้งแต่ประตูบ้านจนไปถึงชั้น 2 คาดผู้เสียชีวิตพยายามดิ้นรนหลบหนีคนร้ายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนถูกซ่อนอำพรางศพ เชื่อว่าผู้ตายเปิดประตูรับคนร้ายเข้ามา ผู้ก่อเหตุมีอย่างน้อย 1 คน บริเวณบ้านผู้เสียชีวิตมีกล้องวงจรปิด แต่ขอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนให้เรียบร้อยก่อน ยืนยันจะเริ่มดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะ ผบ.ตร.กำชับมาเรื่องคดีนี้ และผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดภายในบริเวณบ้าน

และเมื่อเวลา 16.30 น. ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำวัตถุพยานในที่เกิดเหตุเข้ามาที่ สน.สุทธิสาร จากการสังเกต วัตถุพยานที่นำมาส่วนใหญ่ห่อด้วยถุงสีดำทึบ ที่ส่วนใหญ่แล้วคือกระดาษและกล่องลังที่ผู้ก่อเหตุนำมาวางทับร่างผู้เสียชีวิตเพื่ออำพราง และวัตถุพยานสำคัญอีก 1 ชิ้น คือ มีดทำครัว 2 เล่ม ในบ้านหลังเกิดเหตุ ที่พบคราบเลือดติดอยู่. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก