กทม.26 มิ.ย.- ป.ป.ช.มีมติสั่งสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีกล่าวหา “เศรษฐา” ตั้ง “บิ๊กต่อ” เป็น ผบ.ตร.โดยมิชอบ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการหารือกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถูกร้องเรียนว่า แต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ก่อนหน้านี้ทาง ป.ป.ช.ได้มีการเชิญเลขาคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดแล้ว แต่การเข้ามาชี้แจง เป็นการชี้แจงในภาพกว้างทั่วไป ไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องของผลงาน
นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีความสงสัยเรื่องของผลงานด้านการสืบสวนสอบสวน เพราะยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดว่า ผลงานด้านการสืบสวนสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มีการกำหนดหลักเกณฑ์และกรอบการให้คะแนนไว้อย่างไร รวมถึงคำว่าสืบสวนสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ฯ มีความหมายว่าอย่างไร ที่ประชุมจึงมีมติให้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่มีการพิจารณาคัดเลือก ผบ.ตร. ในขั้นตอนของ ก.ตร. มีการเสนอผลงานหรือไม่อย่างไร โดยกรอบเวลาในการตรวจสอบ นายนิวัติไชย ไม่ได้ระบุชัดว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ระบุเพียงว่า กรณีนี้มีการตรวจสอบเพียงประเด็นเดียว น่าจะไม่ล่าช้า โดยหากตรวจสอบเสร็จสิ้น และพบว่ามีมูล ก็จะมีการเสนอสั่งไต่สวน แต่หากไม่มีมูล ป.ป.ช. ก็จะไม่รับเรื่องไว้พิจารณา ส่วนประเด็นนี้จะเป็นเหตุให้นายเศรษฐา พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ยังอีกไกล เพราะขณะนี้เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ได้มีการสั่งไต่สวนเลยด้วยซ้ำ
เลขาธิการ ป.ป.ช. ยังกล่าวถึงคดีของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของ ป.ป.ช. ว่า มีอยู่ 2 คดี คือ 1. คดีเว็บพนันมินนี่ ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ป.ป.ช.มีการขอสำนวนคืนจากพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่ได้รับกลับมา อยู่ในระหว่างติดตาม และ 2. คดีที่ สน.เตาปูน ป.ป.ช.มีมติรับไว้พิจารณาเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับ “บิ๊กโจ๊ก” ส่วนคดีทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการเล่นพนัน ได้มีการส่งคืน สน.เตาปูน ไปแล้ว โดย ป.ป.ช.จะนำทั้ง 2 สำนวนมาพิจารณาร่วมกัน เพราะทั้ง 2 คดีเป็นโครงข่ายที่มีความเชื่อมโยงกันทางด้านบัญชี.-319 -สำนักข่าวไทย