วอชิงตัน 6 ต.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐยอมกลับลำจะเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกเพื่อสกัดกั้นผู้อพยพ โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะเป็นงบผูกพันจากสมัยรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์
นายไบเดน กล่าวปกป้องแผนการเดินหน้าก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนติดกับเม็กซิโกว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำเพราะเป็นงบผูกพันที่มีผลตามกฎหมายมาจากสมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ แม้ว่าตัวเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม โดยมองว่าการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองเป็นวิธีการที่ไม่ได้ผล และควรนำเงินไปใช้ในเรื่องอื่นที่เหมาะสมกว่า แต่สภาคองเกรสก็ไม่ยินยอมให้นำเงินก่อสร้างกำแพงไปใช้ในเรื่องอื่น
การกล่าวของนายไบเดนถือเป็นการกลับลำ หลังจากที่เคยรับปากในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2560 ว่าจะยกเลิกนโยบายสร้างกำแพงของนายทรัมป์ อย่างไรก็ตามคำกล่าวของนายไบเดนไม่สอดคล้องกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ประกาศว่าการสร้างกำแพงเพิ่มรัฐในเท็กซัสถือว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเนื่องจากจำนวนผู้อพยพทะลักข้ามพรมแดนเข้ามาเป็นจำนวนมาก และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก่อสร้างกำแพงเพิ่มโดยเฉพาะในเขตริโอ แกรนด์ วัลเลย์ซึ่งเป็นจุดที่มีคนลักลอบข้ามพรมแดนเป็นจำนวนมาก
ขณะนี้ ปัญหาผู้อพยพลักลอบเข้าเมืองกำลังสร้างความปวดหัวให้กับรัฐบาลของนายไบเดนที่ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าไม่มีนโยบายป้องกันพรมแดนและปัญหานี้ยังทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความช่วยเหลือของสหรัฐที่จัดสรรให้แก่ยูเครน เพราะ สส. รีพับลิกันบางส่วนปฏิเสธที่จะอนุมัติงบให้จนกว่านายไบเดนจะมีมาตรการรับมือกับผู้อพยพ ขณะที่นายทรัมป์ซึ่งต้องการลงสู้เลือกตั้งนัดล้างตาในปีหน้าบอกว่าการกลับลำของนายไบเดนแสดงให้เห็นว่านโยบายสร้างกำแพงกั้นพรมแดนของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว.-สำนักข่าวไทย