นนทบุรี 21 ก.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ย้ำชัดสินค้าอุปโภคและบริโภคจะต้องมีราคาลดลงตามการปรับลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลลงอย่างแน่นอน ขอเวลาให้ส่วนราชการไปดูโครงสร้างต้นทุนการผลิตทุกกลุ่มสินค้าให้ชัดเจนก่อนเรียกประชุมผู้ผลิตสินค้าและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ ก่อนขอความร่วมมือช่วยลดสินค้าให้กับประชาชนทั้งประเทศได้ พร้อมแบ่งงานดูแลกรมฯ ต่างๆ ให้ รมช.พณ. เพื่อให้ทำงานเป็นทีมมากขึ้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าขณะนี้ กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราโครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคทุกกลุ่มสินค้าให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับแนวทางการลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลได้ประกาศปรับลดลงไปแล้วว่าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าและต้นทุนด้านการขนส่งสินค้ามีการลดลงไปมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้รายละเอียดของแต่ละกลุ่มสินค้าจะสามารถปรับลดราคาลงม่ให้กับประชาชนทั้งประเทศได้มากน้อยแค่ไหน คาดว่าโครงสร้างต้นทุนนี้จะมีความชัดเจนได้ในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นอาจจะมีกลุ่มสินค้ากว่า 20 รายการที่อยู่ในชนิดกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคที่มรความจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนที่จะต้องปรับลดราคาสินค้าต่อหน่วยลงมา แต่จะปรับลดลงได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดูว่าน้ำหนักของไฟฟ้าและน้ำมันดีเซลที่ลดลงไปช่วยลดต้นทุนการผลิตและขนส่งสินค้าแต่ละรายการสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน หากรายการสินค้าใดลดลงมากก็ควรที่จะปรับลดราคาสินค้าในกลุ่มนั้นมากด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องพิจารณาลึกลงไปแม้ต้นทุนผลิตบางรายการลดลงแต่เมื่อผลิตเป็นสินค้าออกมาแล้ว ต้นทุนยังสูงอยู่ก็ต้องพิจารณาให้มีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อได้สูตรโครงสร้างสินค้าที่ชัดเจนแล้วขั้นตอนต่อไปจะเรียกประชุมกับผู้ผลิตสินค้ารายและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่มาหารือเพื่อทำความเข้าใจและจะต้องเข้ามาช่วยเหลือประชาชนทั้งประเทศเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ต่อไป
นอกจากนี้ ไม่เพียงสินค้าอุปโภคและบริโภคเท่านั้น กระทรวงพาณิชย์ยังจะขอความร่วมมือให้ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศที่มีศูนย์อาหารที่ให้บริการแก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในห้างนั้น โดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูปประเภทต่างๆควรที่จะต้องลดราคาอาหารในแต่ละจานด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเป้าหมายต่อไปที่กระทรวงพาณิชย์จะลงมาดูตรงนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ห้างสรรพสินค้าก็จะต้องเข้ามาช่วยดูในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานของตนเองและนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงพาณิชย์ สามารถบริหารและจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงได้แบ่งงานการดูแลในกระทรวงพาณิชย์ โดยตนจะดูแลกรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ องค์การคลังสินค้า(อคส.) ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(องค์การมหาชน)
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงพาณิชย์ ดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา(องค์การมหาชน) เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย