ชาวอเมริกันออกไปเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

วอชิงตัน 6 พ.ย. – ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้นำประเทศคนต่อไป ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนางคอมมาลา แฮร์ริส


อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ออกไปใช้สิทธิ์หย่อนบัตรเลือกตั้งเมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาในสหรัฐที่หน่วยเลือกตั้งในเมืองปาล์ม บีช รัฐฟลอริดา ร่วมกับชาวอเมริกันหลายล้านคน ซึ่งทยอยออกไปยังคูหาเลือกตั้ง เพื่อเลือกระหว่างสองผู้สมัครที่มีวิสัยทัศน์แตกต่างกันอย่างมาก โดยนายทรัมป์แสดงความมั่นใจว่ารณรงค์หาเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม และเรียกร้องให้ชาวรีพับลิกันออกไปใช้สิทธิ์ นายทรัมป์บอกด้วยว่า เขาเป็นคนแรกที่ยอมรับ หากเขาแพ้การเลือกตั้งอย่างยุติธรรม หลังจากช่วงหาเสียงที่ผ่านมานายทรัมป์ระบุมาโดยตลอดว่า ความพ่ายแพ้ใดๆ ของเขา อาจเกิดจากการฉ้อโกงเท่านั้น

ด้านรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ผู้าสมัครจากพรรคเดโมแครต อยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี หลังจากใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าทางไปรษณีย์มาก่อนหน้านี้แล้ว เธอใช้เวลาตลอดวานนี้พูดคุยทางโทรศัพท์กับสถานีวิทยุหลายแห่งในรัฐสมรภูมิ หรือ สวิง สเตท เรียกร้องให้ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง


เหตุการณ์ที่พลิกผันจากหลายเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น การพยายามลอบสังหารทรัมป์ 2 ครั้ง การถอนตัวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แบบกะทันหัน และการก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วของนางแฮร์ริส ทำให้การแข่งขันระหว่างสองฝ่ายยังคงสูสีเกินกว่าจะคาดเดาได้

นางแฮร์ริส วัย 60 ปี จะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงผิวดำและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกหากคว้าชัยในการเลือกตั้ง ขณะที่นายทรัมป์ วัย 78 ปี ประธานาธิบดีคนเดียวที่ถูกฟ้องถอดถอนออกจากตำแหน่งถึง 2 ครั้ง และเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกเช่นกันที่ชนะการเลือกตั้งไม่ติดต่อกันในรอบมากกว่า 100 ปี หลังจากที่เขาไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ในส่วนของบรรยากาศเลือกตั้งตามพื้นที่ต่างๆ มีผู้คนออกไปใช้สิทธิลงคะแนนกันอย่างคึกคัก เข้าคิวเพื่อรอเข้าไปใช้สิทธิเป็นแถวยาวตามหน่วยเลือกตั้งในหลายรัฐทั่วสหรัฐฯ ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 82 ล้าน ออกใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งผ่านทางไปรษณีย์หรือกาบัตรด้วยตัวเอง ท่ามกลางการคาดคะเนว่าผลคะแนนที่ออกมาจะคู่คี่สูสีอย่างมาก โดยเฉพาะใน 7 รัฐสมรภูมิ หรือ สวิง สเตท ซึ่งมีแนวโน้มจะตัดสินผู้ชนะ ได้แก่ แอริโซนา (มีคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง 11 คะแนน), จอร์เจีย (16 คะแนน), มิชิแกน (15 คะแนน), เนวาดา (6 คะแนน), นอร์ทแคโรไลนา (16 คะแนน), เพนซิลเวเนีย (19 คะแนน) และวิสคอนซิน (10 คะแนน) โดยในจำนวนนี้ รัฐจอร์เจียจะปิดคูหาเลือกตั้งก่อนเพื่อนตอน 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 07.00 น. เช้าวันนี้ตามเวลาบ้านเรา ส่วนรัฐเนวาดาปิดคูหาช้าสุด ตอน 22.00 น. หรือเกือบ 10 โมงเช้าบ้านเรา


สำหรับขั้นตอนการนับคะแนน ทันทีที่ปิดคูหาเลือกตั้ง ซึ่งเวลาจะแตกต่างไปในแต่ะรัฐ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งจะเริ่มนับบัตรลงคะแนนของผู้ที่มาใช้สิทธิเมื่อวานนี้ก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นจะเริ่มนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งแบบลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรือ Mail-in ที่แต่ละรัฐก็จะมีกฎในการนับบัตรลงคะแนนประเภทนี้ที่ต่างกันออกไปอีก อาทิ บางรัฐกำหนดให้ต้องนับคะแนนบัตร Mail-in ก่อนวันเลือกตั้งเท่านั้น ขณะที่บางรัฐกำหนดให้ต้องนับบัตรเลือกตั้งเฉพาะที่ประทับตราวันที่และส่งมาทันในเวลาก่อนวันเลือกตั้งเท่านั้น ทำให้กระบวนการนับคะแนนบัตรประเภทนี้ใช้เวลาพอสมควร

อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ทราบผลการเลือกตั้งช้า คือเรื่องเวลาในสหรัฐฯ ที่แตกต่างกันถึง 6 ไทม์โซน ประกอบด้วย Pacific Time / Mountain Time / Central Time และ Eastern Time ไล่ตามลำดับเวลาก่อน-หลัง รวมไปถึงไทม์โซนของแอลาสกา และฮาวาย โดยเมื่อคูหาปิดลงคะแนน สื่อท้องถิ่นจะเริ่มรายงานผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ ไล่มาจากเขตเวลาตะวันออก หรือ Eastern Time ก่อน ซึ่ง 5 รัฐจาก 7 รัฐสมรภูมิ หรือสวิง สเตท อยู่ในพื้นที่นี้ ที่จะปิดคูหาก่อน และน่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการช่วงหลังเที่ยงวันนี้ตามเวลาไทย อย่างไรก็ตาม การประกาศผลเลือกตั้งของสหรัฐที่ค่อนข้างแน่นอน อาจต้องรอหลายวันหลังการเลือกตั้ง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้ตัดสินด้วยผลการลงคะแนนรายบุคคลทั่วประเทศ (national popular vote) เหมือนกับประเทศอื่น แต่จะแพ้ชนะด้วยจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ของทั้ง 50 รัฐ ซึ่งแต่ละรัฐมีจำนวนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรในรัฐนั้น ๆ ในจำนวนทั้ง 50 รัฐ มี 48 รัฐที่ผู้ชนะเลือกตั้งในรัฐนั้นจะได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งไปทั้งหมด (winner-take-all) มีเพียง 2 รัฐ คือ เนบราสกา และเมน ที่จะจัดสรรจำนวนคณะผู้เลือกตั้งไปตามคะแนนเสียงของแต่ละเขตเลือกตั้งภายในรัฐดังกล่าว ผู้สมัครที่ได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 คน จาก 538 คน จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา

ขณะเดียวกัน นอกจากการหย่อนบัตรเลือกประธานาธิบดีแล้ว เมื่อวานนี้ ชาวอเมริกันยังได้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในส่วนอื่นๆ ด้วย ทั้งการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส. ชุดใหม่ทั้งหมด 435 คน ซึ่งเป็นการเลือกทุกๆ 2 ปี ที่ทุกวันนี้พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ การลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. 34 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง หรือราว 1 ใน 3 ซึ่งขณะนี้ พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาสูง นอกจากนี้ ยังมีการลงคะแนนยิบย่อยอื่นๆ ทั้งการลงประชามติเรื่องสิทธิการทำแท้งใน 10 รัฐ และเรื่องการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการใน 4 รัฐ.-815.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]