ศบ.ทก.รายงาน 7 จังหวัดชายแดนเหตุการณ์ปกติ

ทำเนียบ 7 ส.ค.-ศบ.ทก.รายงาน 7 จังหวัดชายแดนตั้งแต่ 18.00 น. วานนี้-เช้านี้ 07.00 น. ไม่มีการปะทะ เหตุการณ์ปกติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันนี้ ไม่มีรายงานเหตุการณ์ ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 7 จังหวัด รวมทั้งฝ่ายปกครอง ทั้งระดับอำเภอ ตำบล ผู้ใหญ่บ้าน เร่งสำรวจความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบและแจ้งลูกบ้าน หากพบว่า มีความปลอดภัย สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ส่วนพื้นที่ใดยังไม่มีความปลอดภัย ก็ให้มีการระบุอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนชะลอการเดินทางกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนยังมีการบินรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่เสี่ยง ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง ทั้งระดับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ทันที.-314.-สำนักข่าวไทย

อธิบดีปกครอง สั่ง 7 จังหวัดชายแดนเร่งรัดเบิกจ่ายเงินเยียวยา

กทม. 7 ส.ค.- อธิบดีปกครอง สั่ง 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งรัดเบิกจ่ายเงินเยียวยา พร้อมอัพเดทความคืบหน้าโดยเร็วที่สุด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง เรียกประชุมด่วน ช่วงเย็นวันที่6 ส.ค.เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด โดยมีปลัดจังหวัด ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ร่วมประชุม อธิบดีกรมการปกครอง ได้เน้นย้ำ ให้ทั้ง 7 จังหวัด เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา หากติดขัดอย่างไร ขอให้รายงานตรงมายังกรมการปกครอง ตน กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขอให้รายงานผลการดำเนินงานกลับมายังส่วนกลาง ทุกวัน โดยเร็วที่สุด เพราะปัญหาของผู้อพยพ และประชาชนรอไม่ได้.-319.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ยันเข้มงวดเป็นพิเศษ หลังจับสายลับ BHQ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันช่วงนี้เข้มงวดเป็นพิเศษ หลังจับสายลับหน่วย BHQ ที่บุรีรัมย์ เจอโดรนปริศนาหลายร้อยลำที่ สมุทรปราการ ขอดูข้อเท็จจริงโยงกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำดวน ควบคุมตัวสายลับกัมพูชา ซึ่งเป็นทหารหน่วย BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ให้ทางราชการดำเนินการไป ตอนนี้เรามีความระแวดระวังเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะที่มีข่าวออกมามาก มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถึงแม้จะยังยืนยันในข้อเท็จจริงไม่ได้ ว่าเป็นของคนนั้นคนนี้ แต่เราก็ทราบว่ามีลักษณะเข้ามาเป็นพิเศษ ซึ่งตอนนี้เราก็ได้มีมติไปแล้วในเรื่องความเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องโดรน ยกเว้นในเขตพื้นที่ ที่ออกนอกเขต 7 จังหวัดชายแดน ที่เป็นพื้นที่การเกษตรก็สามารถขอได้เป็นรายๆ พร้อมย้ำว่าช่วงนี้ เราต้องเข้มงวดกันหน่อย เพราะยังไม่รู้ว่าการเจรจาจะเป็นอย่างไร เมื่อถามกรณี ที่มีการตรวจยึดโดรนกว่า 200 ลำได้ที่จังหวัดสมุทรปราการ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนั้นจับไปแล้วซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ ขอให้ผลสอบสวนเสร็จค่อยว่ากัน เราได้รับทราบว่ามีการจับกุมไปเมื่อคืนวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานมา เมื่อถามว่า จะต้องใช้เวลานานหรือไม่ในการตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงไปถึงกัมพูชา […]

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ

ทำเนียบ 4 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคงยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลังปฏิบัติการตามแผน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ครม.นัดพิเศษ เคาะงบกลางเยียวยา 7 จังหวัดชายแดน

ทำเนียบ 1ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย ครม.นัดพิเศษ เคาะงบกลางเยียวยา 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา มอบหน่วยงานไปพิจารณาตัวเลขก่อนชงเข้า ครม. 5 ส.ค.นี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษวันนี้ว่า เรื่องแรก ที่ได้มีการหารือคือกรณี ภาษีสหรัฐฯ โดยมอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้แถลงรายละเอียด ส่วนอีกเรื่องคือการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์วิธีการ ในการใช้งบประมาณรายจ่าย จากงบกลางเพื่อจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะรุนแรงที่ชายแดนไทยกัมพูชา 7 จังหวัด เพื่อจะดูเรื่องค่าใช้จ่ายจากการบาดเจ็บ เสียชีวิต ทุพพลภาพ รวมถึงความเสียหายของบ้านเรือน โดยจะใช้กรณีพิเศษในการดูแลเรื่องนี้ โดยยังไม่ได้พิจารณาเรื่องตัวเลข แต่จะมากกว่าที่เคยประกาศไว้ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษได้รับมตินี้และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาหารือ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง วันอังคารที่ 5 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากจะใช้งบกลางก็สามารถหยิบไปจ่ายได้ทันที.-319.-สำนักข่าวไทย

...