ก.พาณิชย์ 11 ก.ย. – “พิชัย” เข้ากระทรวงพาณิชย์ วันแรก ระบุเศรษฐกิจแย่มาหลายปี ชี้แบงก์ชาติห่วง Moral Hazard มากไป พร้อมเร่งแก้หนี้-ลดดอกเบี้ย ช่วยเอสเอ็มอี และเกษตรกร เตรียมแผนเร่งด่วนแก้ปัญหาของแพง-สินค้าจีนทะลักเข้าไทย -สินค้าเกษตรตกต่ำ-สภาพคล่องโรงสี
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้ากระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ให้การต้อนรับ
ภายหลังการสักการะสิ่งศักสิทธิ์ นายพิชัยให้สัมภาษณ์ว่า ตนและ รมช. พร้อมทำงานร่วมกัน ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้งมารับตำแหน่ง พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นต้องช่วยกันแก้ไข โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่แย่มาตลอดหลายปี กระทรวงพาณิชย์เป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาโดยเฉพาะการเจรจาการค้ากับต่างประเทศที่ไม่ได้ดำเนินการมาหลายปีจึงต้องเร่งในเรื่องนี้
สำหรับเอสเอ็มอีมีปัญหาหลายเรื่องต้องแก้ เรื่องแรกคือ เรื่องแก้ปัญหาหนี้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยึด moral hazard มากเกินไป เช่น การจะตัดหนี้ SME แบงก์ชาติก็มักอ้างถึง Moral Hazard มากเกินไป (การสร้างแรงจูงใจลูกหนี้ที่ไม่ได้รับผลกระทบให้หยุดชำระหนี้) ที่ผ่านมาเศรษฐกิจทั้งโลกยังไม่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ถ้าปล่อยไปจะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงเรื่อยๆ ดังนั้น การช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมามีรายได้ ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ หากปล่อยไปเศรษฐกิจก็จะแย่ลงเรื่อยๆ และหนี้ก็จะเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดก็ต้องตัดหนี้อยู่ดีและให้ความช่วยเหลือ และคิดว่าความร่วมมือจากแบงก์ชาติและธนาคารพาณิชย์เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนแนวทางเรื่องนโยบายการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ขณะนี้ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว แค่ตอนนี้ยังรอขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของนายกรัฐมนตรี เบื้องต้นได้พูดคุยแผนปฏิบัติการกับปลัดกระทรวงพาณิชย์แล้ว แต่ต้องรอการมอบนโยบายก่อนถึงจะให้สัมภาษณ์ได้
ส่วนปัญหาสินค้าจีนทะลักไทย จะต้องเร่งหารือซึ่งกันและกัน และตนไม่อยากให้มองว่าจีนเป็นผู้ร้าย ซึ่งที่ผ่านมาจีนมองไทยเป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งไทยกับจีนมีธุรกิจลงทุนเกี่ยวเนื่องกับไทยเพิ่มขึ้น 40-50% และยังมีธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ถือเป็นธุรกิจ New S-CURVE ซึ่งมีมูลค่าระดับ 1.5 แสนล้านบาท
การแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งมีแนวทางเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่ขอพูดตอนนี้ ต้องรอแถลงนโยบาย
ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของสมาคมโรงสีข้าวไทย ที่เตรียมจะยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เบื้องต้นรับรู้แล้ว เรื่องนี้แบงก์ชาติจะต้องเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหา เพราะทุกธุรกิจได้รับผลกระทบอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด
“เรื่องนี้ผมไม่ได้เพิ่งพูดตอนนี้ ผมพูดมาตั้งแต่สมัยเป็นที่ปรึกษานายกฯ แล้ว แบงก์ชาติควรจะต้องมีภาพคล่องให้มากกว่านี้ ถ้ามีน้ำ ปลาจะไปวางไข่ได้เยอะ แต่พอน้ำออกปลาก็ตาย หรือ ปลาก็แย่งน้ำกันก็เป็นปัญหา ท่านอย่าไปกลัวว่าเดี๋ยวหนี้เสียเยอะ ต้องหาทางแก้ไขอย่าเอามาปนกัน“ นายพิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานกระทรวง นายพิชัย บอกว่าขณะนี้ยังไม่ได้แบ่งงานกัน แต่ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีปัญหากับอีก 2 รัฐมนตรี โดยวันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 จะเข้ากระทรวงฯ เพื่อมอบนโยบายการทำงาน.-516-สำนักข่าวไทย