21 กันยายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
บทสรุป :
เป็นภาพสัตว์ป่วย สัตว์หายาก และภาพตัดต่อ ที่ถูกนำมาอ้างอย่างผิด ๆ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยน้ำบำบัดกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าหลังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบการกลายพันธุ์ของสัตว์ทะเลจำนวนมาก พร้อมนำหลักฐานสัตว์กลายพันธุ์ที่พบใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลซึ่งเป็นผลจากการสัมผัสกัมมันตรังสีอีกด้วย
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
จากการตรวจสอบโดย Fact Checker ในต่างประเทศยืนยันว่า ข้ออ้างเรื่องการพบสัตว์กลายพันธุ์จากกัมมันตรังสีเป็นการสร้างความเข้าใจผิด
สัตว์กลายพันธุ์จากฟูกูชิมะ ?
กุ้งที่มีขางอกจากหลัง
ภาพแรกที่ถูกแชร์คือภาพกุ้งที่มีขางอกออกมาจากเปลือกด้านหลัง ซึ่งการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่เกาะอยู่หลังตัวกุ้งคือ เพรียงคอห่าน (Gooseneck Barnacles) เป็นเพรียงทะเลชนิดหนึ่ง มีเปลือกแข็ง อาศัยอยู่ตามโขดหินตามชายฝั่งทะเลหรือพบตามขอนไม้ที่ลอยมาติดชายหาด ดำรงชีวิตด้วยการดักจับแพลงก์ตอนในทะเลเป็นอาหาร การที่เพรียงคอห่านมาเกาะที่ตัวกุ้งพบได้ไม่บ่อยนัก แต่สามารถเกิดขึ้นได้
กุ้งมังกรหนัก 150 กิโลกรัม
ภาพที่ 2 ที่ถูกแชร์คือภาพการจับกุ้งมังกรขนาดมหึมาน้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ซึ่งถูกแชร์ในต่างประเทศช่วงปลายเดือนสิงหาคม จนมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทาง Weibo และ Line ของจีนอ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ
แท้จริงแล้วภาพกุ้งมังกรยักษ์เกิดจากการดัดแปลงภาพด้วยเทคโนโลยี AI เมื่อพบว่าลักษณะทางกายภาพบิดเบี้ยวจากความเป็นจริงหลายจุด นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจจับภาพ AI อย่าง Hive Moderation แล้ว พบว่ามีโอกาสเป็นภาพที่ถูกดัดแปลงภาพด้วยเทคโนโลยี AI ถึง 90%
ปลาหมาป่าไซส์ยักษ์
ภาพที่ 3 ที่ถูกแชร์คือภาพการจับปลาหมาป่าขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากการกลายพันธุ์เพราะการสัมผัสกัมมันตรังสีมากเกินปกติ
ปลาที่อยู่ในภาพคือปลาหมาป่า (Bering Wolffish) พบได้ในทะเลทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น เกาะฮอกไกโด ทะเลโอค็อตสค์ และอะแลสก้า
ปลาหมาป่าไซส์ยักษ์ถูกถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ปี 2015 ขนาดของตัวปลาที่ยาวถึง 120 เซนติเมตร ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์นำไปเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกลายพันธุ์เพราะกัมมันตรังสีมานับแต่นั้น
อย่างไรก็ดี ฮิราซากะ ฮิโรชิ ผู้จับปลาหมาป่าในรูปภาพและจบการศึกษาด้านชีววิทยาทางทะเล ยืนยันว่าปลาหมาป่าขนาดใหญ่สามารถพบได้ทั่วไปในทะเลแถบเกาะฮอกไกโด ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดจากการกลายพันธุ์เพราะกัมมันตรังสีอย่างที่อ้าง นอกจากนี้ปลาหมาป่าไม่ใช่สัตว์หายากและมีอย่างชุกชุมในท้องทะเล การที่ปลาหมาป่าไม่เป็นที่รู้จักอาจเป็นเพราะรสชาติของเนื้อปลาไม่เป็นที่นิยมเหมือนปลาชนิดอื่น ๆ
สัตว์กลายพันธุ์จากเชอร์โนบีล ?
นอกจากนี้ ยังอ้างว่าใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลที่เกิดอุบัติเหตุแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปี 1986 พบสิ่งมีชีวิตที่ดูแปลกประหลาดมากมายที่กลายพันธุ์เพราะได้รับกัมมันตรังสีจำนวนมหาศาล
สุนัขตาเดียว
ภาพที่ 4 ที่อ้างว่าเป็นสุนัขตาเดียวที่สัมผัสกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีล แท้จริงแล้วคือภาพลูกแพะตาเดียว ที่ถ่ายได้ที่รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย เมื่อปี 2017
ลูกแพะในภาพเกิดมาพร้อมกับอาการไซโคลเปีย (Cyclopia) ความผิดปกติทางสมองตั้งแต่กำเนิด ส่งผลให้หัวกะโหลกมีเบ้าตาเพียงแค่ข้างเดียว สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาพร้อมกับอาการไซโคลเปียมักจะตายหลังจากลืมตาดูโลกไม่นาน ลูกแพะตาเดียวตัวนี้สามารถรอดชีวิตมาได้นานกว่าปกติ
แมลงกึ่งสัตว์กึ่งพืช
ภาพที่ 5 ที่อ้างว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแยกไม่ออกว่าเป็นสัตว์กลายพันธุ์หรือหรือเป็นพืชกลายพันธุ์จนขยับได้ แท้จริงแล้วคือ พยาธิขนม้า (Horsehair Worm) พบในแมลงบางชนิด เช่น เต่าทอง แมลงสาบ ตั๊กแตน และสัตว์จำพวกครัสเตเชียนหรือกุ้งกั้งปู ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
เอเลี่ยนห้อยหัว
ภาพที่ 6 ที่อ้างว่าเป็นสัตว์ประหลาดคล้ายเอเลี่ยนห้อยหัวอยู่ใต้สะพานในเมืองเชอร์โนบีล แท้จริงแล้วคือ เพรียงหูกระต่าย (Rabbit-Ear Barnacles) สามารถพบได้ทั่วไปในทวีปยุโรป แอฟริกา และประเทศนิวซีแลนด์
แม้งานวิจัยเมื่อปี 2011 จะพบว่า สัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลมีอัตราการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมสูงกว่าปกติถึง 20 เท่า แต่การกลายพันธุ์ก็ไม่รุนแรงขนาดก่อให้เกิดสัตว์สายพันธุ์ใหม่ตามที่กล่าวอ้าง
นอกจากนี้ปริมาณกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบีลก็สูงกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะถึง 10 เท่า
การกลายพันธุ์ที่เกิดจากการสัมผัสสารกัมมันตรังสี จำเป็นต้องใช้กัมมันตรังสีในปริมาณมากและใช้เวลาที่นานพอ ในกรณีน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ มีปริมาณสารกัมมันตรังสีอย่างทริเทียมหลงเหลือในน้ำเพียง 1,500 เบ็กเคอเรลต่อลิตร ซึ่งน้อยกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้มีในน้ำดื่มหลายเท่า (10,000 เบ็กเคอเรลต่อลิตร) จึงเป็นไปไม่ได้ที่สัตว์ทะเลจะสามารถกลายพันธุ์จากการสัมผัสกัมมันตรังสีในปริมาณน้อยและในเวลาอันสั้นเช่นนี้
ข้อมูลอ้างอิง :
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9530
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9582
https://www.snopes.com/fact-check/puerto-rico-lobster/
https://www.vice.com/en/article/4x3jpp/the-fish-that-was-wrongly-accused-of-being-affected-by-radiation
https://www.techarp.com/facts/radiation-mutant-creatures-facts/
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter