กทม. 6 ก.ย. – ปลัด กทม.สั่งย้ายนายช่างโยธาลาดกระบังเรียกรับส่วยออกจากพื้นที่ เตรียมสั่งพักราชการเปิดทางสอบวินัยร้ายแรง แนะประชาชนอย่ายอม หากถูกเจ้าหน้าเรียกรับผลประโยชน์ ลั่น กทม.ยุคนี้ พร้อมจัดการเอาผิดการทุจริตถึงที่สุด
ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. บุกจับกุมนายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง อายุ 59 ปี ภายในห้องทำงาน พร้อมแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ หลังมีผู้เสียหายร้องทุกข์ว่าถูก เรียกรับสินบนเป็นเงิน 50,000 บาท แลกกับการอนุมัติแบบก่อสร้างขอต่อเติมอาคารที่พักอาศัย จนเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนเข้าจับกุม
นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร และ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ปลัดกรุงเทพมหานครได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และมีคำสั่งให้นายช่างโยธาอาวุโสรายนี้ไปปฏิบัติงานที่สำนักการโยธา กองแผนงานและประสานสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นงานที่ไม่ได้ประสานงานกับประชาชน และในวันนี้ปลัดกรุงเทพมหานครจะลงนามหนังสือสั่งให้พักราชการต่อไป
ข้อมูลจากศูนย์ทุจริตกรุงเทพมหานคร ระบุว่า มีเรื่องร้องเรียนการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับด้านงานโยธา 40 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ 12 เรื่อง จาก 10 เขต ซึ่งได้ส่งคณะทำงานลงไปสืบข้อเท็จจริง ถ้าพบเข้าข่ายทุจริตก็จะส่งข้อมูลไปยัง ป.ป.ท. หรือ ป.ป.ช.
นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้าง รื้อถอนอาคาร แต่หน่วยงานดำเนินการล่าช้า 7 เรื่อง เรื่องร้องเรียน ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลที่สาธารณะ 2เรื่อง เรื่องร้องเรียน การนำเรื่องการนำทรัพย์สินราชการไปใช้ส่วนตัว 1 เรื่อง และเรื่องอื่นๆ
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาประชาชนมักแจ้งเรื่องร้องเรียนไปทาง ป.ป.ท. เป็นหลัก และ กทม. มีช่องทางการร้องเรียนเรื่องทุจริตได้ผ่านสายด่วน 1555 และผ่านทาง Traffy Fondue ซึ่งขอย้ำว่าหากพบการทุจริตหรือมีการเรียกรับ ให้ประชาชนแจ้งเข้ามาได้ทันที กทม.ยุคนี้จะดำเนินการจัดการกับเรื่องทุจริตอย่างรวดเร็ว ส่วนกรณีนี้ ทาง กทม. จะประชุมหารือกับทางผู้บริหารในการหาทางแก้ปัญหาในระยะยาว โดยยกตัวอย่าง กรณีการรับผิดชอบร่วมกันเป็นลำดับชั้น เพื่อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบ โดยระดับผู้อำนวยการเขต และระดับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ จะต้องเข้ามามีบทบาทในการร่วมตรวจสอบการออกใบอนุญาตด้วย
นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นนี้มีการพูดถึง และจะหาแนวทางแก้ไขทั้งในส่วนกรณีการโยกย้ายไปมาและสามาถกลับไปทำงานที่เดิมได้แม้จะเป็นการสร้างอิทธิพล หรือทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ รวมถึงระบบที่จะต้องแก้ไขเรื่องการขอใบอนุญาต ต่อไปจะต้องแก้ไขลดเรื่องการใช้ดุลพินิจ และลดโอกาสที่จะต้องเจอกันเพียงคนสองคน ให้เป็นลักษณะการอนุญาตมีทีมในการพิจารณาร่วมกัน. – สำนักข่าวไทย