รัฐบาลเร่งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายใน

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมย้ำเพื่อก้าวพ้นการติดกับดักรายได้ปานกลาง รัฐบาลจึงประกาศนโยบายประเทศไทย 4.0 พร้อมขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศทุกภาคส่วน ตั้งแต่ชุมชน เอสเอ็มอีจนถึงภาคอุตสาหกรรม 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย…หัวใจอยู่ที่ชุมชน” ในวาระครบรอบ 67 ปี หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ว่า ประเทศไทยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากภาคเกษตร สู่อุตสาหกรรมเบา และก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรมหนัก ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 3.0 ด้านภาคการเกษตรสู่ยุคเกษตรแปรรูป แต่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจดังกล่าวประเทศยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างติดกับดักรายได้ปานกลาง รวมถึงเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำโอกาสทางการงาน อาชีพ และขาดความสมดุลในการพัฒนาพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก หากประเทศไทยจะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนได้รัฐบาลต้องพัฒนาประเทศ จึงนำเสนอนโยบายประเทศไทย 4.0 เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องให้คนไทยทุกภาคส่วนร่วมกันปฎิรูปประเทศให้ก้าวข้ามปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เพื่อเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้ายืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบต่าง ๆ ได้ และเป็นระบบกระจายโอกาสให้คนไทยสามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่ระดับชุมชน และนับเป็นการสร้างนวัตกรรมสู่สินค้าและบริการ และพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทย ซึ่งอาจจะไม่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นการช่วยให้คนไทยมีศักยภาพเพิ่มขึ้น ชุมชนมีศักยภาพ มีการปรับและยกศักยภาพทั้งด้านสังคม การศึกษาและด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เกิดการพัฒนาอย่างทั่วถึงต่อไป

สำหรับสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ สร้างความเข้มแข็งจากภายในหรือ LOCAL ECONOMY ทำให้สามารถส่งออกสินค้า หรือขายภายในประเทศได้เอง ไม่ได้รับผลิตสินค้าให้ต่างประเทศเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ซึ่งในที่สุดจะช่วยเติมเต็มศักยภาพของประเทศ ให้พร้อมเติบโตตั้งแต่ฐานรากขึ้นมา ช่วยให้ประเทศพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้


ด้านเศรษฐกิจ มีแนวทางขับเคลื่อน ได้แก่ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ใช่โครางสร้างพื้นฐานทางกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น เส้นทางคมนาคม ถนน รถไฟ และการพัฒนาท่าเรือ เป็นต้น โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ใช่ทางกายภาพ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เช่น การสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม ที่สำคัญ คือ การพัฒนาด้านศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความคิดของคนไทยต่อไป 

ด้านภาคอุตสาหกรรม รัฐบาลกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะพัฒนาต่อยอดให้สอดรับการพัฒนาของประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ยานยนต์แห่งอนาคต เช่น รถไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่จะต่อยอดเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของไทย เช่น รถยนต์จะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ไทยผลิตได้ ด้านการเกษตรพัฒนาจากเกษตรขั้นต้น สู่การแปรรูปและพัฒนาสู่การแปรรูปขั้นสูงต่อไป แต่จะต้องมีการจัดการอย่าเหมาะสม เป็นต้น 

ส่วนอุตสาหกรรมใหม่ก็มีการส่งเสริมให้เกิดขึ้นเช่นกัน เช่น อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพหรือไบโออีโคโนมี ที่มีวัตถุดิบในประเทศสามารถนำมาต่อยอด เช่น จากข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง และอ้อย โดยนำไปผลิตเป็นสินค้า อาหารผู้สูงอายุ อาหารสำหรับนักกีฬา และนักเรียน รวมถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผลิตเครื่องสำอางค์ เป็นต้น รวมถึงอุตสาหกรรมหุ่นยนต์สำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่คนไทยมีศักยภาพ และรัฐบาลกำลังสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายเหล่านี้ ผ่านกลไกกลุ่มประชารัฐที่ประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ภาคการศึกษา เพื่อที่จะมาช่วยการสร้างและยกระดับอุตสาหกรรมเหล่านี้ พร้อมพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี กลุ่มสตาร์ทอัพ กลุ่มเหล่านี้จะเป็นพลังความคิดค้นสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะเป็นกลุ่มที่มีแนวความคิดใหม่  เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ซึ่งในต่างประเทศเช่นกันขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่หันมาขอใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กลุ่มเหล่านี้คิดค้นขึ้นมาได้ สุดท้าย คือ พัฒนาคนไทยให้เท่าทัน มีความรู้ในเทคโนโลยี 


นายอุตตม กล่าวว่า การพัฒนาให้มีความเข้มแข็งจากภายในประเทศนั้น รัฐบาลจะเน้นการพัฒนาเชิงพื้นให้มาก เป็นการเจริญใหม่ แต่ไม่ใช่ว่าของเดิมไม่ดีทั้งหมด แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะนำซึ่งโอกาสให้พื้นที่ชุมชนสร้างความเจริญใหม่ ๆ โดยภาครัฐจะทำงานสนับสนุนให้กับชุมชนทั่วประเทศ ทั้งนี้ ไทยไม่ใช่เพียงกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่เท่านั้น กิจการต่าง ๆ ก็ไม่เพียงแต่เฉพาะกิจการขนาดใหญ่เท่านั้น ยังรวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคนตัวเล็กที่กระจายทั่วประเทศถึงประมาณ 3 ล้านรายอีกด้วย เพื่อพัฒนายกระดับให้มีศักยภาพในการพัฒนาและสร้างสรรค์ได้อีกมาก และยังมีภาคเกษตรกรอีกนับ 10 ล้านราย ที่มีวิถีชีวิตของตัวเองจะหาทางช่วยดึงศักยภาพในการพัฒนาออกมาให้ได้มากที่สุด  ที่สำคัญยังน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขอพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มุ่งรักษาสมดุลการพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มที่ชุมชน ความสุขของชุมชน คือ การแก้ไขปัญหาปัจจุบัน และสร้างโอกาสที่ชุมชนจะเข้าถึงโอกาสให้ได้ เหล่านี้เป็นเรื่องของการสร้างความเข็มแข็งและพัฒนาต่อยอดสู่สังคมภายนอกต่อไป 

สำหรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ทุกโครงการต้องชุมชนมีส่วนร่วม โดยต้องชัดเจนว่าสร้างแล้วชุมชนได้ประโยชน์อย่างไร โครงการนี้จะเป็นฐานการสร้างความเจริญใหม่ที่คนไทยทั่วประเทศได้ประโยชน์ร่วมกันไม่เพียงเฉพาะ 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และจังหวัดระยองเท่านั้น 

ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับผิดชอบประสานงานกับภาครัฐและเอกชน ภาคการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนการพัฒนายกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 โดยได้รับการสนับสนุนจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ โดยอยู่ในรูปกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท และยังมีสินเชื่อของธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ วงเงิน 15,000 ล้านบาท กองทุนพลิกฟื้นของสำนักงานพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ สสว. วงเงิน 2,000 ล้านบาท รวมวงเงินช่วยเหลือ 37,000 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”