ข้าราชการ เฮ! เพิ่มค่าตอบแทน ค่าครองชีพชั่วคราว

เชียงใหม่ 29 พ.ย. – ครม.ไฟเขียวปรับเพิ่มค่าตอบแทนข้าราชการ ให้เท่าผู้บรรจุใหม่ เงินเพิ่มเพดานค่าครองชีพชั่วคราวข้าราชการ 11,000- 14,600 บาท คาดใช้งบฯ 2,670 ล้านบาท


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.รับทราบข้อเสนอการปรับเพิ่มค่าตอบแทนแรกบรรจุใหม่ และปรับเพิ่มค่าตอบแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของพนักงานราชการ จากเดิมข้าราชการวุฒิปริญญาตรี มีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และผู้ที่ปฏิบัติงานในตําแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. เงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายใน 2 ปี โดยอัตราเงินเดือนของผู้ที่รับราชการอยู่ก่อนจะต้องไม่น้อยกว่าผู้ที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่ โดยใช้คุณวุฒิระดับเดียวกัน และอัตราเงินเดือนหลังการปรับจะต้องไม่ทําให้ผู้ซึ่งเคยได้รับเงินเดือนสูงกว่ากลายเป็นผู้ได้รับเงินเดือนต่ำกว่าผู้ดํารงตําแหน่งประเภทและระดับเดียวกันที่บรรจุในวุฒิเดียวกัน

จึงเพื่อปรับเพิ่มเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งรับราชการอยู่ก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุใหม่มีผลใช้บังคับ ทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ ตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้น (ทุกคุณวุฒิ) ในอัตราร้อยละ 10 ภายใน 2 ปี โดยปีที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 (เช่น คุณวุฒิระดับปริญญาตรี จากเดิม 15,000 บาท เป็น 16,500 บาท ในปีที่ 1 และปรับเป็น 18,150 บาท ในปีที่ 2)


สำหรับการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ จํานวน 2 ครั้ง ให้มีผลใช้บังคับพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในปีที่ 1 และปีที่ 2 โดยปรับเงินเดือนชดเชยในแต่ละปีให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับราชการก่อนวันที่ อัตราแรกบรรจุที่กําหนดใหม่มีผลใช้บังคับอย่างน้อย 10 ปี และยังได้ปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เป็นการปรับเพดาน เงินเดือนขั้นสูง จากเดิมเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท เพิ่มเป็นเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท และปรับเพดานขั้นต่ำของเงินเดือน รวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิมเดือนละ 10,000 บาท เป็น เดือนละ 11,000 บาท

การปรับเงินเพิ่มการครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบํานาญขั้นต่ำ จากเดิม 10,000 บาท เป็น 11,000 บาท ซึ่งการปรับเพดานเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวนี้ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยข้าราชการ ลูกจ้างประจํา ทหารกองประจําการ และผู้รับบํานาญ และคาดว่าจะใช้งบประมาณ เพิ่มขึ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยให้ส่วนราชการใช้จ่ายจากงบประมาณของแต่ละส่วนราชการ เป็นลําดับแรก หากไม่เพียงพอให้ขอทําความตกลงกับสํานักงบประมาณ (สงป.) เพื่อขอใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจําปี งบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ หรือรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นแล้วแต่กรณี ตามลำดับ

คาดใช้งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 2,670 ล้านบาท โดยปีที่ 1 (5 เดือน) จํานวน 830 ล้านบาท และปีที่ 2 (12 เดือน) จํานวน 1,840 ล้านบาท (ปีที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 และปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568) โดยให้ส่วนราชการใช้จ่ายจากงบประมาณของแต่ละส่วนราชการเป็นลําดับแรก หากไม่เพียงพอให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจําปี งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น ตามที่ คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) เสนอ.- 515 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.4 กำชับเร่งสืบจับมือวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี

ปัตตานี 20 มิ.ย. – แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี กำชับเร่งสืบจับผู้ก่อเหตุ เพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ หลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี พร้อมกำชับตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และปรับแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดปัตตานี หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.68) พบว่า เจ้าของร้านต่างเร่งซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาเปิดขายได้อีกครั้ง และพบว่าหลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายไก่ทอด ไก่ย่าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ตัดสินใจเดินทางกลับ จ.ตรัง โดยบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ขายมา ไม่ว่าจะที่ จ.ยะลา หรือนราธิวาส จึงรู้สึกกลัว แม้อยากทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่รักชีวิตมากกว่า. – สำนักข่าวไทย

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

ไมค์โขกหัวนายกฯ

นายกฯ โพสต์แจง “ไมค์โขกศีรษะ” นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกฯ อิ๊งค์ แจงไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ บอกหน้างานเบียดกันมาก โดนไม่แรง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านสตอรี่ไอจี กรณีมีไมค์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งโดนศรีษะของนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และนายกรัฐมนตรีได้อุทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า วันนี้ที่มีข่าวเรื่องไมโครโฟนโขกศีรษะ

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย