ลำปาง 24 มิ.ย.-ช่วงนี้ผลผลิตสับปะรดที่ จ.ลำปาง ออกมามากจนล้นตลาด ราคาตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 2 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวสวนสับปะรด แต่มีสวนสับปะรดของเกษตรกรหนุ่มคนหนึ่งกลับสวนกระแสขายได้ราคาดี เพราะเขาปรับเปลี่ยนการปลูกเป็นสับปะรดอินทรีย์ที่มีความหอมหวาน รสชาติอร่อย ใครได้กินเป็นต้องติดอกติดใจจนแทบไม่พอขาย
ริมถนนสายลำปาง-งาว ในตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ช่วงนี้เต็มไปด้วยสับปะรดที่ชาวสวนนำมากองขายริมถนนในราคาแสนถูก บางรายขายเพียงกิโลกรัมละ 1.50 บาท ถึง 2 บาท ชาวสวนต่างได้รับความเดือดร้อนกันไปทั่วหน้ากับราคาที่ตกต่ำ แต่ต้องจำใจขายดีกว่าปล่อยให้เน่าเสีย เพราะยังมีผลผลิตสับปะรดออกมาอีกมากในช่วงนี้
แต่สับปะรดที่ไร่ช่างเอก ในหมู่บ้างวังเลียบ ตำบลบุญนาคพัฒนา อำเภอเมืองลำปาง กลับขายดิบขายดีและขายได้ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งกฤษณะ สิทธิหาญ หรือช่างเอก เจ้าของไร่วัย 42 ปี ซึ่งเคยทำงานทั้งช่างยนต์ ช่างกลึงเหล็ก ช่างไฟฟ้า เรียกว่าเป็นคนที่มีความรู้สารพัดช่าง ที่เคยไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ แต่สุดท้ายกลับมาทำการเกษตรที่บ้าน และปลูกสับปะรดกันเป็นหลัก แต่ก็ประสบปัญหาราคาตกต่ำแทบทุกปี สุดท้ายเขาก็หาทางออกโดยการปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำสับปะรดแบบใหม่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ช่างเอกยังปรับเปลี่ยนการปลูกด้วยการยกแปลง ใช้ความรู้ทางช่างประดิษฐ์เหล็กเจาะรูสำหรับปลูกและดัดแปลงเครื่องฉีดน้ำเพื่อให้น้ำระหว่างการปลูกหน่อสับปะรด โดยใช้พลาสติกคลุมเพื่อลดวัชพืชและเพิ่มความชื้นในดิน ช่วยประหยัดน้ำและแรงงาน แถมทำให้สับปะรดตั้งตัวได้ดีและเก็บผลผลิตได้เร็วขึ้น จากปกติที่ใช้เวลาเป็นปี เหลือเพียง 10 เดือน ที่สำคัญเขายังยกระดับทำสับปะรดแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี แต่ใช้กากถั่วเหลืองและสับปะรดตกเกรดมาทำหมักเป็นปุ๋ย ทำให้สับปะรดหวานฉ่ำ หอม ใครได้ชิมเป็นติดอกติดใจ
นอกจากนี้ยังมีลูกค้าสั่งซื้อทางโทรศัพท์และทางออนไลน์ จัดส่งทั่วประเทศกล่องละ 8-10 กิโลกรัม ในราคา 150 บาท ขายวันหนึ่ง 200-300 ลูก แทบจะไม่พอ สิ่งสำคัญช่างเอกบอกว่าทำเกษตรไม่ว่าจะปลูกอะไรต้องมองตลาดให้ชัดเจน เน้นพัฒนาคุณภาพผลผลิต และยึดหลักพอเพียงตามแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 จะช่วยให้เกษตรกรอยู่ได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย