แนะรัฐบาลใหม่ปฏิรูปข้าว-ชาวนาไทย หลัง 10 ปีชาวนาไทยจนเพิ่มหนี้ท่วม 

กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ แนะรัฐบาลใหม่ปฏิรูปข้าวและชาวนาไทยแทนการแทรกแซงราคา หลัง 10 ปี ชาวนาไทยจนเพิ่มหนี้ท่วม


รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยฝากถึงรัฐบาลใหม่ให้ช่วยแก้ปัญหาชาวนา แก้ปัญหาข้าวให้ตรงจุด หลังพบว่าในช่วง 10 ปี (2555-2565) ผลผลิตข้าวต่อไร่ของไทยลดลง จากการศึกษาพบว่าผลผลิตข้าวไทยต่ำกว่าเวียดนามสามเท่า (ไทยเฉลี่ย 450 กิโลกรัมต่อไร่เวียดนามกว่า 1000 กิโลกรัมต่อไร่หรือมากกว่า 1 ตันต่อไร่) ที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 2000 บาทต่อไร่แต่รายได้กลับลดลงเกือบ 800 บาทต่อไร่ ชาวนาไทยมีอาชีพทำนาแต่ไม่ใช่ชาวนามืออาชีพขณะที่เวียดนามคือชาวนาอาชีพจากชาวนาไทยส่วนใหญ่คิดแค่ 2 เรื่องคือราคากับผลผลิตไม่คิดเรื่องการปรับลดต้นทุน ชาวนาไทยปลดหนี้โดยขายที่นา ชาวนาขาดทุนสะสมจากการทำนาต้องขายที่นาและเช่าที่นาตัวเองเพื่อทำการเกษตรต่อ นโยบายของรัฐที่ผ่านมาไม่สามารถปลดหนี้ให้กับชาวนาได้ ไทยประสบปัญหาแหล่งน้ำไม่พร้อมและปัญหาโลกร้อน เงินวิจัยน้อยไทยส่งเงิน 200 ล้านบาทในการวิจัยแต่เวียดนามส่เงิน 3000 ล้านบาทส่วนอินเดียจีนและญี่ปุ่นใส่เงินวิจัยข้าวมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญต่อปี

นโยบายการแทรกแซงตลาดทำลายศักยภาพการแข่งขันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาข้าวอยากแท้จริง คนไทยยิ่งทำนาหนี้ยิ่งเพิ่มเพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตต่อไร่ลดลงราคาขายลดลง ข้าวไทยไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหันไปรักสุขภาพมากขึ้นข้าวหอมและนุ่มเป็นที่ต้องการ เอกลักษณ์ข้าวไทยลดน้อยถอยลงโดยเฉพาะความหอมความนุ่มเพราะมีการปลอมปนและเร่งการผลิตบนที่ดินที่ขาดคุณภาพและการควบคุมการกระจายพันธุ์ข้าวซึ่งการกระจายพันธุ์ข้าวเพื่อควบคุมคุณภาพข้าวเวียดนามทำได้ดีกว่าไทย


ดังนั้นไทยควรดูประเทศคู่แข่งเป็นกระจกสะท้อน ว่าเขาพัฒนาข้าวและชาวนาจนมีรายได้เป็นบวกได้อย่างไร เราไม่สามารถละเลยการมองตลาดโลกไม่สามารถละเลยศักยภาพของเรา ด้วยคำว่าไม่เป็นไรหากราคาข้าวตกต่ำก็เข้าไปแทรกแซง รัฐบาลควรนำเงินที่จะใช้แทรกแทรงราคาผลผลิตการเกษตรไปเป็นเงินรางวัลสำหรับเกษตรกรที่สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตได้

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรหันกลับมามองและแก้ปัญหาจริงๆ ของชาวนา ไม่เช่นนั้นศักยภาพการแข่งขันของไทยจะถดถอยลง เพราะเรื่องข้าวคือระเบิดเวลา 

“รัฐบาลใหมาควรแก้ปัญหาวงจรอุบาทว์ข้าวไทย ที่ชาวนามีต้นทุนสูง รายได้ต้ำ โดยการปฏิรูปข้าวไทยครบวงจร โดยใช้ 10 จุดอับ มาหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพราะข้าวไทยเปรียบเสมือนระเบิดเวลา นับวันจะมีแต่ถดถอยลง 10 ปีที่แล้วชาวนาไม่มีหนี้แต่ทุกวันนี้ ชาวนามีหนี้เพิ่มเฉลี่ยครัวเรือนละ 1-3 แสนบาท เป็นหนี้ ธกส. และร้านขายปัจจัยการผลิตและวัสดุการเกษตร ที่สำคัญไม่ควรแทรกแซงตลาด เพราะตลอด 20 ปีทีผ่านมา นโยบายของรัฐบาลไม่ว่ายุคไหนไม่ได้ทำให้เกษตกรมีรายได้สูงขึ้น ขณะเดียวกันยังทำให้เงินในกระเป๋าลดลง“ รศ.ดร.อัทธ์ กล่าว


รศ.ดร.อัทธ์ กล่าว ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลใหม่ควรคิดเรื่องน้ำให้มากที่สุด เพราะนับจากนี้น้ำจะเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกร อาจจะพิจารณาให้ซอฟต์โลนเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำของเกษตรกรและชุมชน 

ส่วนการแก้หนี้เกษตรกรต้องเข้าไปสู่ปัญหาว่าแท้จริงแล้วคืออะไร ที่ผ่านมาเกษตรกรแก้หนี้โดยการขายที่นา เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ดังนั้น จึงควรมีการแก้ไขหนี้อย่างจริงจัง นโยบายที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน การแก้ปัญหาหนี้สินอย่างจริงจังก็คือลดต้นทุนการผลิต ยกระดับผลผลิตต่อไร่ให้ได้ ไม่เฉพาะข้าวยังรวมถึงการเกษตรอื่นๆ และไทยควรเน้นเน้นข้าวพรีเมี่ยม ข้าวออแกนิค ข้าวสุขภาพ และทำให้ข้าวหอมมะลิกลับมาหอมดังเดิม เพราะทุกวันนี้ข้าวหอมมะลิกลิ่นหอมน้อยลง จากการเร่งรีบการผลิต

อย่างไรก็ตามข้าวไทยยังมีโอกาส เพราะปีนี้เวียดนามลดการส่งออกข้าว ประกอบกับหลายประเทศเจอภัยแล้ง รวมถึงปัญหารัสเซียถอนตัวจากจ้อตกลงทะเลดำ ทำให้ข้าวสาลีจากยูเครนไม่มีในตลาดโลก จึงนับเป็นโอกาสของข้าวไทยที่จะเข้าไปทดแทนข้าวสาลี แต่ยังมีความเสี่ยงจากปัญหาเอลนิญโญที่อาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิต อาจทำให้ไม่สามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้า

และหากตั้งรัฐบาลได้ช้ากว่าเดือนสิงหาคม การส่งออกไทยอาจจะติดลบได้ถึง 2% เพราะขาดงบประมาณทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ ดังนั้นควรจึงต้องมีการตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สำคัญยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอาจย้ายไปลงทุนประเทศอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ภายใต้ฉากทัศน์การตั้งรัฐบาลล่าช้า จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตใกล้เคียงกับเมียนมาคือ แค่ 2 กว่าๆ ซึ่งโตช้าที่สุดในอาเซียน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน