กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.- “ศรีวารห์”เข้ากองปราบร่วมประชุมสรุปผลการสอบสวนผู้ต้องหาลอบวางระเบิด รพ.พระมงกุฏเกล้า ยังโยนให้ ผบ.ตร.ตอบคำถามเช่นเคย และจากการสอบสวนผู้ต้องหารับวางระเบิดมาแล้วรวม 6 ครั้งตั้งแต่ปี 50 เตรียมเสนอศาลออกหมายจับบ่ายนี้
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามสำนวนคดีวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ภายหลัง ทหารควบคุมตัวเพื่อนสาวคนสนิทของนายวัฒนา ภุมเรศ ชาย วัย62ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีส่งมอบตัวให้ตำรวจกองปราบปรามสอบสวน พร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดคดี ระบุเพียงว่าให้สอบถามรายละเอียดทั้งหมดจากพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนการสอบปากคำเพื่อนสาวคนสนิทของนายวัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน และยังไม่พบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงว่าร่วมก่อเหตุกับนายวัฒนา และ เชื่อว่านายวัฒนาก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเตรียมคำร้องเพื่อขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกออกหมายจับภายในวันนี้
ขณะที่เมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจและทหาร ได้เข้าตรงจค้นบ้านพักของนายวัฒนา 3 จุด คือบ้านพักย่านรามอินทราซอย 3 /คอนโดมิเนียมย่านบางกรวย จ.นนทบุรี /และโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งพบหลักฐานชิ้นส่วนประกอบวัตถุรัเบิดหลายรายการ อาทิ ไปป์บอม 4 ลูก ท่อพีวีซี ตะปูเกรียว แผงวงจรระเบิดที่ประกอบแล้วพร้อมติดตั้งแผงไอซีทามเมอร์ สมบูรณ์ 4 ชุด ดินเทา ซึ่งเป็นเชื้อประทุ 4 กระป๋อง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไอซีทามเมอร์ตรงกับเหตุระเบิดที่หน้ากองสลากเก่า หน้าโรงละครแห่งชาติ และโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า
และมีรายงานว่าการสอบสวนนายวัฒนา ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดป่วนเมืองมา 6 ครั้ง โดยครั้งแรกก่อเหตุระเบิดที่หน้าเมเจอร์สาขารัชโยธิน ครั้งที่ 2 หน้าตู้โทรศัพท์หน้ากองทัพบก ครั้งที่ 3 บริเวณซอยราชวิถี ซึ่งทั้ง 3 เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 2550 หลังจากนั้นหยุดก่อเหตุ กระทั่งมาก่อเหตุครั้งที่ 4 หน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาลถนนราชดำเนินกลาง ครั้งที่ 5 หน้าโรงละครแห่งชาติ และครั้งที่ 6 หน้าห้องวงศ์สุวรรณ โรงพยาบาลพระมงกุฏ ก่อนถูกจับกุมได้ที่บ้านพักย่านรามอินทราซอย 3
ภายหลังรับทราบความคืบหน้าผลการสืบสวนสอบสวนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางกลับ ทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดใดกับสื่อมวลชนเพียงกล่าวสั้นๆว่าผลการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากเป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตามการสืบสวนสอบสวนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล นายวัฒนารับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง และจากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมหลังก่อเหตุที่โรงบาลพระมงกุฎเกล้าตลอดสองสัปดาห์สอดคล้องกับคำให้การของนายวัฒนาไม่พบการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นอีก
ขณะที่พนักงานอสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายวัฒนาภายในบ่ายวันนี้.-สำนักข่าวไทย