นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

นครคุนหมิง 7 พ.ย.-“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุม GMS ครั้ง 8 และการประชุม ACMECS ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นการประชุมแบบพบกันเป็นครั้งแรก หลังสถานการณ์โควิด-19 โดยการเดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS) ที่นครคุนหมิงครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ได้พบหารือกับผู้นำหลายประเทศในภูมิภาค ได้แก่ จีน สปป ลาว เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการขับเคลื่อน และความร่วมมือในหลายด้านที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาค เช่น น้ำท่วม ฝุ่นควัน อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีประชากรในภูมิภาคนี้กว่า 200 ล้านคน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยจะมุ่งมั่นแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และครั้งนี้มีผลสำเร็จหลายประการโดยเฉพาะประเด็นปัญหาข้ามพรมแดน อย่างยาเสพติด ที่ได้ รับความร่วมมือ ในการแก้ปัญหานี้ร่วมกันอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรม และได้มีการประสานความร่วมมือในระดับรัฐมนตรีมากขึ้นอีกด้วย ครั้งนี้ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยได้ยกระดับนโยบายสาธารณสุขจาก “30 บาท รักษาทุกโรค” เป็น “30 บาท รักษาทุกที่” และขยายการให้บริการสุขภาพมาตรฐานโดยใช้ระบบการแพทย์ทางไกล ซึ่งนโยบายของรัฐบาลเรื่องนี้ ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศสมาชิก นอกจากนี้ในการพัฒนาระบบการเงินประเทศไทยได้ก้าวสู่ ระบบโอนเงินไร้เงินสด เช่นการใช้ พร้อมเพย์ และการใช้จ่ายผ่าน QR Code ระหว่างประเทศอีกด้วย

“การหารือ ทวิภาคีในวันนี้ เป็นประเทศที่ได้มีโอกาสพบปะในเวทีประชุมอาเซียน และในวันนี้ ได้พบหารือและพูดคุยกันอีกครั้งในเชิงลึกมากขึ้น ซึ่งในระหว่างอาหารกลางวันได้พบกับนายหวัง หยู่โป ผู้ว่าการมณฑลยูนนาน และพูดคุยในหลายประเด็น เช่น การส่งออกโค ซึ่งยูนนานยินดีหารือความร่วมมือนี้ ไปข้อติดขัดต่างๆระหว่างกัน“ น.ส.แพทองธาร กล่าว


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สนทนากับผู้นำเมียนมาระหว่างการประชุม ซึ่งนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า ไทยพร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโดยสันติ และปรารถนาที่จะเห็นความสงบสุขในเมียนมา เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเจริญเติบโตไปพร้อมๆกัน รวมทั้งเพื่อให้สามารถร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ข้ามแดน เช่น ยาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์ หมอกควัน น้ำท่วม ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายกรัฐมนตรียังได้ขอความร่วมมือฝ่ายเมียนมาช่วยแก้ไขปัญหาที่ผู้ประกอบการธุรกิจไทยในเมียนมาประสบอยู่ เช่น ปัญหาการขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้า

ขณะที่ผู้นำเมียนมาขอความร่วมมือไทย นำแรงงานเมียนมาที่อยู่อย่างไม่ถูกต้องในไทยเข้าสู่ระบบ เพื่อให้สามารถได้รับการดูแลตามกฎหมาย ทั้งนี้ผู้นำทั้งสองย้ำความสำคัญของการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และจะร่วมมือแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการเชื่อมโยงระหว่างกันต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามมาตลอด จนถึงวันเลือกตั้ง พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชนะการเลือกตั้ง โดยเห็นแต่ละคนมี นโยบายที่จะผลักดันออกมาแตกต่างกัน ทั้งนี้การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะช่วยในเรื่องส่งออกของไทยให้ดีขึ้น เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ เน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างมากและประเทศไทยก็ค้าขายกับสหรัฐมีมูลค่าสูงมาก ดังนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะสานสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนานไว้


ส่วนคำถามที่ว่า จะเปิดโอกาสให้ประเทศไทย สามารถดัน soft power ของไทยไปสหรัฐฯ ได้มากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าพร้อมผลักดันประเด็นนี้อย่างเต็มที่.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. เร่งสกัดลักลอบส่งกัญชาไปอังกฤษ ฝึกเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานไทยตรวจค้นกัญชา

ป.ป.ส. เร่งสกัดลักลอบส่งกัญชาไปอังกฤษ ฝึกเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานไทยตรวจค้นกัญชา

พปชร. ขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส​ ยันไม่มีข้อแลกเปลี่ยน

พปชร. ขับ 20 สส.ก๊วน​ผู้กองธรรมนัส​ พ้นพรรค​ อ้าง อุดมการณ์ไม่ตรงกัน​ ยันจากกันด้วยดี​ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนกับคดีคนใกล้ชิด​ “ลุงป้อม” ถูกกล่าวหา​ ภูนับดาว​ เตรียมเสนอที่ประชุมร่วม​กก.บห.-สส. ลงมติพรุ่งนี้

ผู้เสียหายร้องกองปราบฯ หวั่นไม่ปลอดภัย ถูก สส.พรรคใหญ่ ขับรถตามถึงหน้าบ้าน

ผู้เสียหายร้องกองปราบฯ หวั่นความปลอดภัย ถูก สส.ปทุมธานี พรรคใหญ่ ขับรถติดตามผู้เสียหายถึงหมู่บ้าน หลังโดนผู้เสียหายขับรถแซงเพราะคู่กรณีขับรถช้าแช่ขวา

ปิดพื้นที่เสี่ยง! หลังช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวบนภูกระดึงดับ 1

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งปิดพื้นที่เสี่ยง เส้นทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่ หลังช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยว บนภูกระดึง เสียชีวิต 1 ราย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือครอบครัวเต็มที่

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” เปิดสัมมนาเพื่อไทย ขอร่วมมือไม่แบ่งขั้ว-อายุ

“แพทองธาร” เปิดสัมมนาเพื่อไทย บอกเป็นนิมิตหมายที่ดีมีนายกฯ มา 3 คน ขอ สส.ร่วมมือกัน ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนที่ผ่านมาโฟกัสงานรัฐบาล สัญญาจะปรับปรุงแบ่งเวลาให้ สส.-สภา

“บิ๊กอ้อ” เชื่อยิงดับ “สจ.โต้ง” มีการวางแผนล็อกเป้าล่วงหน้า

“บิ๊กอ้อ” ฟันธงหลังพา 3 ผู้ต้องหา ชี้จุดบ้านเกิดเหตุยิง “สจ.โต้ง” เสียชีวิต เชื่อมีการวางแผน ล็อกเป้าล่วงหน้า สั่งเพิ่มข้อหาหนัก “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”

นักท่องเที่ยวเกือบ 900 ชีวิต ทยอยลงจากยอดภูกระดึง

เช้านี้นักท่องเที่ยวทยอยลงจากยอด “ภูกระดึง” หลังเหตุสลดช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต และอุทยานฯ ประกาศปิดชั่วคราว

ยิง สจ.โต้ง

คุมตัว “โกทร-สมุน” ฝากขัง – ค้านประกันตัว

ตำรวจเตรียมคุมตัว “โกทร” พร้อมลูกน้อง รวม 7 คน ส่งศาลฝากขัง ขณะที่ผลชันสูตร “สจ.โต้ง” โดนยิงพรุนทั้งตัว รวม 22 นัด ขณะ “โกทร” ลั่นไม่ได้สั่งตาย อยู่ในห้องนอน ไม่เห็นเหตุการณ์