กรมธุรกิจพลังงาน- BAFS บริหารจัดการเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน 

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – กรมธุรกิจพลังงาน คาดตั้งคณะทำงานสนับสนุนการลงทุนโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) ใน 2 เดือน ด้าน BAFS  มั่นใจปีนี้ผลประกอบการพลิกกลับมาบวก ตั้งเป้าปี 2566 ให้บริการน้ำมันอากาศยาน 4,200 ลิตร 


นางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน  และความก้าวหน้าโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) ที่บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) พร้อมชมการสาธิตการใช้รถเติมน้ำมันอากาศยานพลังงานไฟฟ้า ( EV Hydrant Dispenser ) ซึ่งเป็นรถเติมน้ำมันอากาศยาน ที่ทำงานด้วยไฟฟ้าทั้งระบบ 100% ผลิตโดยบริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด ปัจจุบันให้บริการแล้วที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนสนใจและสั่งซื้อปให้บริการในสนามบินอาทิ กัมพูชา มาเลเซีย

รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมการบินมีสัญญาณเริ่มฟื้นตัว ซึ่งในอนาคตการเติบโตส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมการบินโลกจะมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สามารถเริ่มได้เลยคือ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ ที่สามารถผสมกับน้ำมันอากาศยานและสามารถผลิตได้จากวัตถุดิบเดียวกันกับที่ใช้ผลิตเอทานอล และไบโอดีเซล ดังนั้นโครงการการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) จึงเป็นนโยบายสำคัญที่กรมธุรกิจพลังงาน ต้องผลักดันและส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพอย่างยั่งยืน โดยเบื้องต้นจะตั้งคณะทำงานสนับสนุนนโยบายการลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจลงทุน  เช่น การจัดหาวัตถุดิบเพื่อผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงหรือจำเป็นจะต้องนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มเติมหรือไม่ คาดว่าภายใน 2 เดือนจะจัดตั้งคณะทำงานเป็นรูปธรรมได้  


ส่วนด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะหารือกับบีโอไอและกรมสรรพสามิต เพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามแผน และรองรับนโยบายของทั่วโลก ที่กำหนดให้มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2568 โดยภายใต้ร่างข้อกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้สายการบินฯ ต้องเพิ่มสัดส่วนของส่วนผสมระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิงSAF กับน้ำมันเชื้อเพลิง Jet Feul ร้อยละ 2 ในปี 2568 ร้อยละ 5 ในปี 2573 ร้อยละ 20 ในปี 2578 ร้อยละ 32 ในปี2583 ร้อยละ 38 ในปี 2588 และร้อยละ 63 ในปี 2593 ตามลำดับ หากฝ่าฝืนจะถูกปรับ ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนให้ชัดเจน เพื่อเป็นทิศทางนโยบายของประเทศในการสนับสนุนการลงทุน ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุน 2 -3 รายที่เป็นกลุ่มโรงกลั่น สนใจลงทุนในการผลิต SAF

ด้าน ม.ล.ณัฐสิทธิ์  ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) ยอมรับว่าการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน 3-5เท่า  จึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายด้านภาษี เช่น การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน ที่ปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่ 5 บาท/ลิตร ซึ่งถือเป็นต้นทุนร้อยละ 20 ของอุตสาหกรรมอากาศยาน จึงทำให้ปริมาณ การผลิตน้ำมันอากาศยานชีวภาพยังมีสัดส่วนที่น้อย  ซึ่งหากปรับสัดส่วนได้จะเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการบิน

สำหรับ 6 เดือนเรกปี 2566 ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน อยู่ที่ 1,800 ล้านลิตร เกินเป้าหมายไปร้อยละ5  ขณะที่คาดว่าครึ่งปีหลังที่ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น รวมถึงสลอตการบินของจีนที่เพิ่มขึ้น 4-5 เท่า จาก 100-125 เที่ยวบินต่อวัน เป็น  400-500 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมตั้งเป้าการใช้น้ำมันอากาศยานทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 4,200 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ  40 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นการฟื้นตัวราว ร้อยละ 68 ของปริมาณการเติมน้ำมันก่อนเกิดโควิด-19 และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า ที่มีการใช้น้ำมันอากาศยานที่ 6,200ล้านลิตรต่อปี ยังมีปัจจัยหนุน จากสนามบินสุวรรณภูมิ ที่จะเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 แห่งใหม่ (SAT1) นอกจากนี้ โครงข่ายระบบท่อส่งน้ำมัน ของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ได้ขยายการให้บริการสู่ภาคเหนือ ขณะนี้มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 20% หรือคิดเป็นประมาณ 410 ล้านลิตร เท่านั้น เทียบกับความสามารถของท่อทั้งสิ้น 2,450 ล้านลิตรโดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 609-806 ล้านลิตรภายในสิ้นปีนี้  ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะกลับมาเป็นบวก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,410 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 281 ล้านบาท


ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเชื่อมระบบท่อส่งน้ำมันในภาคตะวันออก จากปัจจุบันท่อส่งน้ำมันจะเชื่อมกับคลังน้ำมันของบางจากฯ ที่บางปะอิน แต่ยังไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบท่อในแถบตะวันออก ซึ่งมีโรงกลั่นฯค่อนข้างมาก โดยกลุ่มบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) เบื้องต้นบริษัทได้ขออนุญาตกรมทางหลวงแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเชื่อมต่อระบบท่อส่งน้ำมันของบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) จากสระบุรีไปอ่างทอง ระยะทาง 52 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนด้านการลงทุนภายใน 2 เดือน หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ แล้วเสร็จภายในปี 2568 งบประมาณ 1,500 ล้านบาท และหากโครงการเชื่อมท่อส่งน้ำมันภาคตะวันออกได้ข้อสรุปตามแผน ก็จะเพิ่มงบลงทุนอีก 1,200 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง