กลุ่มบริษัทบางจาก จับมือ BAFS และ BPT นำร่องเติม SAF เข้าระบบท่อ

กลุ่มบริษัทบางจาก ย้ำความพร้อมผู้นำการผลิต SAFจับมือ BAFS และ BPT นำร่องเติม SAF เข้าระบบท่อ สู่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง

บาฟส์ โชว์รายได้ไตรมาส 2/67 รวม 831 ล้านบาท

บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ประกาศผลการดำเนินงาน BAFS Group ไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวม 830.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43.4 ล้านบาท พุ่งทะยานขึ้น 295% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ Aviation ท็อปฟอร์มดันรายได้เข้าเป้า สอดรับท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง เคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท/หุ้น 3 ก.ย.นี้

กรมธุรกิจพลังงาน- BAFS บริหารจัดการเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน 

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – กรมธุรกิจพลังงาน คาดตั้งคณะทำงานสนับสนุนการลงทุนโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) ใน 2 เดือน ด้าน BAFS  มั่นใจปีนี้ผลประกอบการพลิกกลับมาบวก ตั้งเป้าปี 2566 ให้บริการน้ำมันอากาศยาน 4,200 ลิตร  นางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน  และความก้าวหน้าโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) ที่บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) พร้อมชมการสาธิตการใช้รถเติมน้ำมันอากาศยานพลังงานไฟฟ้า ( EV Hydrant Dispenser ) ซึ่งเป็นรถเติมน้ำมันอากาศยาน ที่ทำงานด้วยไฟฟ้าทั้งระบบ 100% ผลิตโดยบริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด ปัจจุบันให้บริการแล้วที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนสนใจและสั่งซื้อปให้บริการในสนามบินอาทิ กัมพูชา มาเลเซีย รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมการบินมีสัญญาณเริ่มฟื้นตัว ซึ่งในอนาคตการเติบโตส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมการบินโลกจะมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สามารถเริ่มได้เลยคือ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ ที่สามารถผสมกับน้ำมันอากาศยานและสามารถผลิตได้จากวัตถุดิบเดียวกันกับที่ใช้ผลิตเอทานอล และไบโอดีเซล ดังนั้นโครงการการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) จึงเป็นนโยบายสำคัญที่กรมธุรกิจพลังงาน ต้องผลักดันและส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพอย่างยั่งยืน โดยเบื้องต้นจะตั้งคณะทำงานสนับสนุนนโยบายการลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจลงทุน  เช่น การจัดหาวัตถุดิบเพื่อผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงหรือจำเป็นจะต้องนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มเติมหรือไม่ คาดว่าภายใน 2 เดือนจะจัดตั้งคณะทำงานเป็นรูปธรรมได้   ส่วนด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะหารือกับบีโอไอและกรมสรรพสามิต เพื่อให้การลงทุนเป็นไปตามแผน และรองรับนโยบายของทั่วโลก ที่กำหนดให้มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2568 โดยภายใต้ร่างข้อกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้สายการบินฯ ต้องเพิ่มสัดส่วนของส่วนผสมระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิงSAF กับน้ำมันเชื้อเพลิง Jet Feul ร้อยละ 2 ในปี 2568 ร้อยละ 5 ในปี 2573 ร้อยละ 20 ในปี 2578 ร้อยละ 32 ในปี2583 ร้อยละ 38 ในปี 2588 และร้อยละ 63 ในปี 2593 ตามลำดับ หากฝ่าฝืนจะถูกปรับ ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนให้ชัดเจน เพื่อเป็นทิศทางนโยบายของประเทศในการสนับสนุนการลงทุน ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุน 2 -3 รายที่เป็นกลุ่มโรงกลั่น สนใจลงทุนในการผลิต SAF ด้าน ม.ล.ณัฐสิทธิ์  ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) ยอมรับว่าการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน 3-5เท่า  จึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายด้านภาษี เช่น การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน ที่ปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่ 5 บาท/ลิตร ซึ่งถือเป็นต้นทุนร้อยละ 20 ของอุตสาหกรรมอากาศยาน จึงทำให้ปริมาณ การผลิตน้ำมันอากาศยานชีวภาพยังมีสัดส่วนที่น้อย  ซึ่งหากปรับสัดส่วนได้จะเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการบิน สำหรับ 6 เดือนเรกปี 2566 ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน อยู่ที่ 1,800 ล้านลิตร เกินเป้าหมายไปร้อยละ5  ขณะที่คาดว่าครึ่งปีหลังที่ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น รวมถึงสลอตการบินของจีนที่เพิ่มขึ้น 4-5 เท่า จาก 100-125 เที่ยวบินต่อวัน เป็น  400-500 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมตั้งเป้าการใช้น้ำมันอากาศยานทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 4,200 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ  40 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นการฟื้นตัวราว ร้อยละ 68 ของปริมาณการเติมน้ำมันก่อนเกิดโควิด-19 และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในปีหน้า ที่มีการใช้น้ำมันอากาศยานที่ 6,200ล้านลิตรต่อปี ยังมีปัจจัยหนุน จากสนามบินสุวรรณภูมิ ที่จะเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 แห่งใหม่ (SAT1) นอกจากนี้ โครงข่ายระบบท่อส่งน้ำมัน ของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ได้ขยายการให้บริการสู่ภาคเหนือ ขณะนี้มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 20% หรือคิดเป็นประมาณ 410 ล้านลิตร เท่านั้น เทียบกับความสามารถของท่อทั้งสิ้น 2,450 ล้านลิตรโดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 609-806 ล้านลิตรภายในสิ้นปีนี้  ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะกลับมาเป็นบวก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,410 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 281 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเชื่อมระบบท่อส่งน้ำมันในภาคตะวันออก จากปัจจุบันท่อส่งน้ำมันจะเชื่อมกับคลังน้ำมันของบางจากฯ ที่บางปะอิน แต่ยังไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบท่อในแถบตะวันออก ซึ่งมีโรงกลั่นฯค่อนข้างมาก โดยกลุ่มบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) เบื้องต้นบริษัทได้ขออนุญาตกรมทางหลวงแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเชื่อมต่อระบบท่อส่งน้ำมันของบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) จากสระบุรีไปอ่างทอง ระยะทาง 52 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนด้านการลงทุนภายใน 2 เดือน หากเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ แล้วเสร็จภายในปี 2568 งบประมาณ 1,500 ล้านบาท และหากโครงการเชื่อมท่อส่งน้ำมันภาคตะวันออกได้ข้อสรุปตามแผน ก็จะเพิ่มงบลงทุนอีก 1,200 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

TGขายหุ้น BAFS ตุนเงิน 2.7 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 19 ม.ค. -ราช กรุ๊ป ปิดดีลประมูลซื้อหุ้น BAFS จากการบินไทย  มูลค่า 2.7 พันล้านบาท  เตรียมต่อยอดธุรกิจบริการเชื้อเพลิงการบินและสร้างหุ้นส่วนระยะยาว บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานการปิดดีลซื้อหุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) จาก บมจ.การบินไทยจำนวน 98,983,125 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.53 มูลค่า 2,712,137,625 บาท   นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลซื้อหุ้น BAFS จาก  การบินไทย ด้วยวิธีการประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์และเป็นผู้ชนะการประมูล บริษัทฯ จึงได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น BAFS […]

...