เตรียมดัดแปลงรถยนต์ราชการใช้พลังงานไฟฟ้า

ทำเนียบรัฐบาล 12 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ สนับสนุนหน่วยงานภาครัฐนำร่องพัฒนารถยนต์ราชการมาดัดแปลงเป็นรถพลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน 


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการนำร่องพัฒนารถยนต์ราชการดัดแปลงเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สอดคล้องนโยบายรัฐบาลในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเปิดตัวรถยนต์ราชการไฟฟ้าดัดแปลงในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ โดยได้พัฒนาต้นแบบยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเดิมสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมนำรถยนต์ราชการสองคัน คือ รถมินิบัส และรถตู้ ที่สภาพเก่า และใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้มีค่าบำรุงรักษาซ่อมแซม รวมถึงยังปล่อยก๊าซเรือนกระจก PM2.5 และไอเสีย มาดัดแปลงเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าที่อยู่ในแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน เปลี่ยนต้นกำลังจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมุ่งหวังที่จะนำรถยนต์ราชการไฟฟ้าดัดแปลงมาใช้ในการปฏิบัติราชการ และใช้เป็นรถสวัสดิการรับ-ส่งเจ้าหน้าที่ พนักงาน และบุคลากรในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังวางแผนถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ และบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ทำให้เกิดการสร้างอาชีพในการดัดแปลงและการซ่อมบำรุงรักษายานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพิ่มขึ้น


“นายกรัฐมนตรีสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐที่มองเห็นความพยายามในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สอดคล้องกับแนวทางรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน นอกจากนี้ รัฐบาลมุ่งผลักดันพัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือกับเทคโนโลยียานยนต์รูปแบบใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล และทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต EV ที่สำคัญของโลก” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง