รัฐสภา 21 มิ.ย.-“อนุชา” สส.รทสช. ยืนยันเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบ 68 แนะรัฐบาลต้องใช้อย่างคุ้มค่า พร้อมเสนอโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ ชี้ต้องการเห็นรัฐบาลดำเนินการปฎิรูปโครงสร้าง-เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นายอนุชา บูรพชัยศรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายในที่ประชุม โดยระบุว่า ตนจะอภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยเหตุผลที่ว่า วันแรกของการอภิปราย (19มิ.ย.67) ที่ผ่านมา ของการพิจารณางบประมาณ ด้านรัฐมนตรีจากกระทรวงการคลังทั้ง 3 คน ชี้แจงไปแล้วค่อนข้างชัดเจน ทำให้ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะได้จัดทำงบประมาณประจำปี 2568 โดยคำนึงถึงการรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกู้เงินเพื่อเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลคงจะกู้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชนและประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม ต้องการเสนอรัฐบาล ให้ความสำคัญ กับเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน จึงมีความสำคัญที่รัฐบาล ต้องพิจารณาจัดลำดับความสำคัญ และความจำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และครอบคลุมจากทุกแหล่งเงินในการใช้จ่ายภาครัฐ ควบคู่กับการทบทวน และการยกเลิกมาตรการ ลด และยกเว้นภาษีต่างๆ ให้มีเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
นอกจากนี้ ตนต้องการเห็นรัฐบาลดำเนินการปฎิรูปโครงสร้าง และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการบริหารจัดการหนี้สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดขนาดการขาดดุลการคลัง และเพื่อเตรียมการไว้สำหรับดำเนินนโยบายที่จำเป็นในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
นายอนุชา ยกตัวอย่างว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ต้องปิดประเทศ และไม่สามารถเดินทางทั้งในและต่างประเทศได้ รวมทั้งปิดห้างร้าน ซึ่ง ณ ตอนนั้นรัฐบาลต้องเร่งหาวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อมาฉีดป้องกัน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีเสถียรภาพทางการเงิน และมีความมั่นคงทางการคลัง จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีเยี่ยม ในการมีมาตรการอื่นๆที่ออกมา และทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
สำหรับการทำร่างงบประมาณรายจ่ายปี 68 แบบขาดดุลในปีนี้ ตนเห็นด้วย เนื่องจากต้องการสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ แต่ก็ต้องการเห็นปรับลดขนาดการขาดดุลในปีงบประมาณต่อๆไป โดยหวังว่า หากภาวะเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และเต็มศักยภาพ รัฐบาลก็สามารถสร้างความเข้มแข็งทางการคลังได้ ทั้งด้านรายได้ และรายจ่าย รวมทั้งหนี้สาธารณะ ย้ำว่า ต้องการเห็นรัฐบาลจัดทำงบประมาณสมดุลในระยะที่เหมาะสมต่อไปในอันใกล้นี้
นอกจากนี้ คนต้องการเสนอให้รัฐบาลดำเนินนโยบาย กึ่งการคลัง ซึ่งบันทึกรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ดำเนินโครงการนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนกลุ่มประชาชนที่ควรได้รับการสนับสนุน และช่วยเหลือ (กรณีที่ฉุกเฉิน และเร่งด่วนเท่านั้น) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ได้ขอตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า โดยหลังจากดำเนินโครงการ หน่วยงานรัฐสามารถยื่นคำขอและจัดสรรงบประมาณโดยตรงกับสำนักงบประมาณต่อไปได้ ฉะนั้น นโยบายกึ่งการคลัง มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ จึงต้องการเสนอรัฐบาล นำนโยบายกึ่งการคลังมาใช้
ขณะเดียวกัน ตนยังต้องการเสนอให้รัฐบาลใช้งบประมาณ ลงมือแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเน้นมาตรการสร้างรายได้ และเพิ่มประสิทธิผลในระยะยาว รวมถึงมาตรการแก้ไข ปรับปรุงระเบียบข้อบังคับในการทำธุรกิจให้ง่าย และสอดคล้องมาตรฐานสากล ตนยังต้องการเห็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการ ลงทุนขนาดใหญ่ โดยกระจายไปทั่วภูมิภาคอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และช่วยให้ประเทศไทยหลุดจากประเทศที่มีกำดักรายได้ปานกลาง
ทั้งนี้ 1 ในนโยบายสำคัญ ที่ตนต้องการเสนอให้รัฐบาลเร่งพิจารณา คือ การขยายการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ ทั้ง 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ NEC ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ NEEC ภาคกลาง และภาคตะวันตก CWEC และภาคใต้ SEC ซึ่งภาคใต้เป็นระเบียงเศรษฐกิจที่ควรดำเนินการในขั้นต่อไป หลังจากประสบความสำเร็จแล้วใน EEC
โดยโครงการ SEC ประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง โครงการระเบียงเศรษฐกิจใน 4 จังหวัดข้างต้น จะสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ๆที่จะสร้างขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงส่งออกวัตถุดิบเท่านั้น ส่วนเมื่อต้องการส่งออกสินค้า สามารถไปที่ท่าเรือ จ.ระนองได้ทันที หรือ ท่าเรือ จ.ชุมพร ซึ่งสามารถใช้ท่าเรือทั้งอ่าวไทย และอันดามันให้เกิดประโยชน์ได้ อนาคต หลังจากสร้างท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ค่อยคิดกันต่อว่า จะสร้างอะไรที่จะให้ทั้งอ่าวไทย และอันดามันเชื่อมหากัน จึงเป็นที่มาของแลนด์บริดจ์
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ตนอภิปรายเป็นเพียงข้อเสนอแนะรัฐบาล และขอสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568.-317.-สำนักข่าวไทย