“ณัฐพงษ์” ชี้หากรัฐบาลบิดพลิ้ว MOA พร้อมตรวจสอบทันที

พรรคประชาชน 16 ก.ย.-“ณัฐพงษ์” ระบุ ปชน. พร้อมชำแหละนโยบายรัฐบาล ทั้งภาพรวม-ตัวบุคคล ชี้ หากรัฐบาลบิดพลิ้ว MOA พร้อมตรวจสอบทันที


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมฝ่ายค้านในการอภิปรายวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า มีการเริ่มกระบวนการมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งในส่วนของพรรคประชาชนมีการเปิดลงชื่อให้ สส.แสดงความประสงค์ในการอภิปราย ซึ่งมีการแบ่งเนื้อหาและประเด็นวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่จะมาดํารงตําแหน่งในคณะรัฐมนตรี รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเราเห็นว่า ภายใต้กรอบ MOA การยุบสภาภายใน 4 เดือนนั้น หากทําให้การดําเนินนโยบายหลายๆ อย่าง ที่อาจสร้างภาระผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป เพราะจะต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสินว่า ประชาชนอยากเห็นหน้าตาของรัฐบาลเป็นอย่างไร หรือการใช้ประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ

ดังนั้น หากการแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่มีความเสี่ยงซึ่งจะทําให้ประเทศตกอยู่ใต้ผลผูกพัน มีภาระทางการคลัง ก็เป็นกรอบกว้างๆ ที่สส.พรรคประชาชนเตรียมเอาไว้


ส่วนจะมีการพุ่งเป้าไปในทิศทางไหนเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าทั้งในเรื่องคุณสมบัติตัวบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ใครที่มีประวัติไม่ดีหรือทางวิญญูชนเห็นได้ว่าน่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องคดี ผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงนโยบายที่ไม่มีความเหมาะสม เป็นกรอบหลักๆที่เราใช้ในการอภิปราย

เมื่อถามว่าช่วงระยะเวลา 4 เดือนนี้ ประชาชนจะได้อะไรจากรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ เห็นว่า สิ่งสําคัญในตอนนี้คือการเดินหน้าตามกรอบ MOA ยุบสภาให้เกิดการเลือกตั้ง และเปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเราสังเกตจากการให้ข้อคิดเห็นจากตัวแทนพรรคต่างๆ ตอนนี้ก็เห็นตรงกันว่า เราสามารถเดินหน้าแก้ไขหมวด 15 ภายในระยะเวลา 4 เดือนนี้ได้เลย แม้จะเป็นระยะเวลาที่สั้น แต่หากเราบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อยู่ในกรอบระยะเวลาที่สามารถทําได้ทัน

ส่วนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ก็เป็นปัญหาที่สําคัญไม่แพ้กัน รัฐบาลในช่วงนี้ต้องใช้งบประมาณอย่างระมัดระวังเท่าที่จําเป็น ไม่สร้างภาระทางการคลังต่อรัฐบาลในอนาคตจนเกินควร


เมื่อถามถึงการหารือเรื่องประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องหลักคือการชี้แจงให้กับเพื่อน สส.เห็นกรอบระยะเวลาไทม์ไลน์ ว่าการแก้ไขหมวด 15 สามารถเป็นไปได้ แต่จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง รวมถึงอาจมีการตั้งประตูในการตรวจสอบ การปฏิบัติตามเงื่อนไข MOA ของพรรคภูมิใจไทย

เช่น หากเราบอกว่าอยากแก้ให้ทันภายใน 4 เดือน ดังนั้น ร่างวาระที่หนึ่งต้องยื่นเข้าสู่สภาภายในเมื่อไหร่ ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ รวมถึงต้องพิจารณาในวาระที่หนึ่ง ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้ไปจบได้ก่อนช่วงสิ้นปีหรือไม่ ซึ่งในวันนี้จะมีการหารือกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมถึงใช้กรอบระยะเวลานี้เป็นเงื่อนไขในการกํากับดูแลตรวจสอบรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่ามีการดําเนินการไปตามสัญญาของ MOA หรือไม่

ส่วนมั่นใจหรือไม่ ว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่บิดพลิ้วหรือมีการขอเลื่อนออกไปก่อน นายณัฐพงษ์ ยืนยันเหมือนเดิมว่า สิ่งที่เราทําตอนนี้คือใช้ 143 เสียง สส.ของเรา ในการกํากับทิศทางรัฐบาลให้เป็นไปตาม MOA ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นไปในทิศทางที่ดีอยู่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นสัญญาณที่อาจมีการบิดพลิ้ว ถ่วงเวลา หรือไม่ปฏิบัติตามนั้น เราก็พร้อมตรวจสอบรัฐบาลทันที

เมื่อถามถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจําเป็นต้องใช้เสียง 1 ใน 3 มีการตกลงกันหรือไม่ว่า พรรคใดจะเป็นผู้ไปเจรจา นายณัฐพงษ์ ระบุว่า โดยหลัก สว.คงมีเอกสิทธิ์ของเขาเอง แต่ในทางการเมือง ตนเชื่อว่าสาธารณชนเองคงจะมองได้ ว่าใครพอจะไปประสานงานกับ สว.ได้บ้าง

นายณัฐพงษ์ ยังเชื่อว่า ถ้าทุกพรรคเห็นตรงกัน การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้แน่นอน หลังจากผ่านมา 2 ปีภายใต้รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเราเห็นว่ากระบวนการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ช้า แต่เมื่อวันนี้มีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และเป็นผลดีกับประชาชนทุกคน และกับประเทศ คือการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประตูได้ถูกเปิดออกแล้ว และเป็นไปในทิศทางที่ดีอยู่

เมื่อถามว่าจะไม่ถูกปิดประตูโดย สว.ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนและเพื่อนในพรรคประชาชน ได้มีการประเมินไว้ล่วงหน้า หากต้องมีกระบวนการที่สะดุด หกล้ม เนื่องจากการขวางของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ว่าไม่ได้ปฏิบัติไปตาม MOA หรือไม่อย่างไร เราก็พร้อมใช้เสียง สส.ของเราในการคว่ำรัฐบาลทันที

เมื่อถามย้ำอีกว่า แต่เสียงของ สว.ไม่ได้อยู่ใน MOA นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เงื่อนไขบางอย่างอาจไม่สามารถระบุเป็นลายลักษณ์อักษรได้ทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่วิญญูชนสามารถรับรู้ได้ร่วมกัน จึงอยากให้ทุกพรรคแสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สําหรับเรื่องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า พรรคประชาชนยึดหลักตามเดิมมาโดยตลอด ว่าทุกอย่างจะต้องปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ภายใต้กรอบทั้งสิ้น ซึ่งตนยืนยันว่า หากมองลงไปในกฎหมายฉบับนี้ บางส่วนก็ยังมีปัญหาแต่ว่า จะแก้อย่างไร ต้องอยู่ภายใต้กรอบคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี

สําหรับการใช้คําว่า พร้อมแก้เมื่อมีอํานาจนั้น จะไม่ทําให้พรรคประชาชนเกิดอุบัติเหตุต่อไปในอนาคตใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ เห็นว่า เรื่องนิติสงคราม ตนต้องขอบอกตามจริงว่าไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ แต่หากถามโดยหลักการและจุดยืน ตนเชื่อว่าสิ่งที่เราสะท้อนออกไป พบว่ากฎหมายฉบับนี้ ยังมีปัญหาบางประการจริงๆ ส่วนความเป็นไปได้ที่จะทําให้เกิดการรวมเสียง เพื่อผลักดันเรื่องดังกล่าวนั้น ก็อาจจะอยู่ที่ว่า เป็นจุดยืนร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล หรือจุดยืนของแต่ละพรรค ตนเชื่อว่า การเมืองในอนาคตยังมีทางออก ขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน ที่จะมอบให้กับการเลือกตั้งครั้งหน้า

สําหรับกรณีที่พรรคประชาชนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าท่าทีในขณะนี้เป็นการเดินตามกรอบคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเป็นการลดทอนอํานาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นีเป็นสิ่งที่ทําไมเราจึงต้องเดินหน้าเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตัดสินใจเลือกนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เพราะนี่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสําคัญ โดยเราต้องการวางบทบาทหน้าที่ขององค์กรอิสระให้เป็นไปตามหลักสากล เพื่อยุติกระบวนการนิติสงคราม.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]