พรรคประชาชน 16 ก.ย.- “ณัฐพงษ์” น้อมรับผลเลือกตั้งซ่อม จ.เชียงราย หลังพ่ายเพื่อไทย บอก ปชน. พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ เผย ส่งแคนดิเดตนายกฯ เกิน 1 คนแน่นอน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึง ผลการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดเชียงราย ซึ่งพรรคประชาชนพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทย สวนทางกับผลโพลที่พรรคประชาชนยังได้รับความนิยม มีการวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างไร ว่า เราวิเคราะห์มาโดยตลอด และน้อมรับเสียงของประชาชนที่มอบให้ ไม่อยากไปโทษว่าเป็นปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง แน่นอนที่สุดตนมีความเชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ที่ระบบการเลือกตั้งมีการอํานวยความสะดวกต่อประชาชนมากขึ้น และประชาชนมองเห็นว่าคะแนนเสียงของพวกเขาจะส่งผลถึงการจัดตั้งรัฐบาล ว่าโฉมหน้ารัฐบาลครั้งหน้าจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่ทําให้คนออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงมากขึ้น และเลือกเพื่ออนาคตของเขาเอง
ตนน้อมรับแต่ต้องยอมรับตามจริงว่า เป็นการเลือกตั้งซ่อมที่แคนดิเดตทั้งสองคนอยู่ในฝ่ายค้าน หลายครั้งประชาชนอาจจะมีภารกิจประจําวัน ที่เขาอาจรู้สึกว่าเลือกไปอาจอยู่ได้ แค่เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจเฉพาะกาล หรือไม่ได้เลือกฝั่งรัฐบาล และจะไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่
อย่างไรก็ดี ตนยังเชื่อมั่น เรื่องความนิยมของพรรคอยู่ ว่าการเลือกตั้งในครั้งหน้าจะส่งผลให้พรรคประชาชนเดินหน้าไปเป็นฝ่ายบริหารได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องอยู่ที่ความไว้วางใจของพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคน
เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งภายหลังมีการยุบสภา นายณัฐพงษ์ เห็นว่า มีเสียงสะท้อนจากประชาชนหลายส่วนว่า อยากเห็นรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ จากแต่ละภาคส่วนที่อยู่นอกฝ่ายการเมืองด้วย ซึ่งตนยืนยันว่า ในตอนนี้พรรคประชาชน เตรียมพร้อมมาก ๆ แล้ว และพร้อมจะเปิดตัวโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดถัดไป ถ้าเราได้รับความไว้วางใจเข้ามาบริหารประเทศ ยืนยันว่า แต่ละคนจะเป็นคนที่ได้รับการยอมรับแน่นอนของแต่ละวงการ พร้อมเป็นคณะรัฐมนตรีที่ดีที่สุดในการบริหารประเทศ เพียงแต่ในตอนนี้ ยังไม่ได้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มตัว เพราะฉะนั้น อาจจะยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อออกมาได้ ณ ตอนนี้
นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า มีการเตรียมพร้อมไว้เกือบครบหมดแล้ว และสําหรับตําแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็คงหนีไม่พ้นตน ส่วนคนอื่นๆ ยืนยันว่าส่งมากกว่าหนึ่งคน แต่จะเป็นคนในพรรคหรือเป็นคนนอกพรรคนั้น ในคณะรัฐมนตรีมีทั้งคนในและคนนอก สําหรับตําแหน่งนายกรัฐมนตรี คงต้องให้ข่าวอีกครั้งในภายหลัง
สําหรับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า แม้จะมีความเป็นวิชาการมากกว่า แต่หากเทียบกับอดีตหัวหน้าพรรคคนอื่นๆ อาจพาไปสู่การเลือกตั้งได้น้อยกว่า นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า แต่ละคนก็ต้องเป็นคนสะท้อนมาถึงตัวตนเองด้วย ในส่วนตัวแล้ว มีความตั้งใจอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหาที่สำคัญให้ประเทศ ว่าจะทําอย่างไร เมื่อเราเข้าสู่อํานาจ จะพร้อมลงโทษคนทําผิด และยุติวัฒนธรรมทําให้คนผิดลอยนวล เชื่อว่า ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเคยเลือกพรรคการเมืองใด ล้วนอยากเห็นประเทศไทยเดินไปในทิศทางนี้
“ผมสามารถให้คํามั่นสัญญาต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนได้คือ เจตจํานงและเป้าหมายของพรรคประชาชนในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้น” นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำ
สําหรับกรณีหากได้เป็นรัฐบาลแล้วมีคนมาร้องเรียนในภายหลังนั้น ไม่ว่าจะมีคนมาร้องหรือไม่มีคนมาร้องก็เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ส่วนตัวคงไม่ได้เอาปัจจัยนี้มาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจว่าเราจะทําอะไรให้เราต้องเสียต่อหลักการหรือจุดยืนของตนเอง ตนยังยืนยันว่า ทั้งตนและพรรคประชาชน จะรักษาในหลักการและจุดยืนเดิม เพียงแต่วิธีการในการสื่อสาร และการทําความเข้าใจ ต่อประชาชนทุกกลุ่ม อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไป เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจพรรคประชาชนมากยิ่งขึ้น
สําหรับกรณีที่เมื่อพรรคประชาชนไม่เข้าร่วมรัฐบาลแล้วทําให้พรรคภูมิใจไทยสามารถแทรกโควตาคนนอกได้นั้น ก็เป็นความเห็นของนางสาวรัชนก ศรีนอก สส.กทม พรรคประชาชน ในฐานะส่วนตัว แต่ตนต้องขอยืนยันอีกครั้งว่า พรรคประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งที่จะยืนยันในเรื่องนี้ได้ คือขอให้รอดูการทําหน้าที่ของพรรคประชาชนในการอภิปรายวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพียงแต่ในช่วงนี้ หากตนมีการแสดงความคิดเห็นอะไรไปก่อนแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงจริงขึ้นมา ก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอีกว่า เรามีส่วนในการเลือกรัฐมนตรีเข้ามา แล้วเราก็คงต้องรับผิดชอบ หรือแบกพรรคภูมิใจไทย ในการจัดตั้งฝ่ายบริหาร ซึ่งเรายืนยันมาโดยตลอดว่า เราเป็นฝ่ายค้าน.-315 -สำนักข่าวไทย