“เอกนัฏ” ข้องใจ 21 สส.รทสช. เซ็นชื่อบีบปรับ ครม. จริงหรือมั่ว

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-“เอกนัฏ” ข้องใจ 21 สส.รทสช. เซ็นชื่อเอกสารบีบปรับ ครม. จริงหรือมั่ว รับไล่เช็กรายตัว บอก “สุชาติ” ยังไม่รับสาย แต่ติดใจใครจะด่าตัวเองไร้ประสิทธิภาพ ขาดจริยธรรม ซัดคนเสียประโยชน์ ป่วนให้พรรคแตก ขู่ กระทำการขัดข้อบังคับผิดจริยธรรม ถึงขั้นพ้นสมาชิก โดยไม่ต้องขับออก

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยเอกสารลงชื่อของ 21 สส.พรรครวมไทยสร้างชาติถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ปรับรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคว่า อย่างที่ตนเคยบอกว่าทั้งและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะหัวหน้าพรรค รู้ดีว่าในภารกิจการทำงานที่กระทรวงต้องเจออะไรบ้าง แต่เราต้องมุ่งมั่นภารกิจของเรา ส่วนข่าวเรื่องเอกสารที่ออกมา ตนขอตั้งข้อสังเกตถึงเอกสารดังกล่าวว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ และยังไม่ทราบว่าได้มีการยื่นเอกสารถึงนายกรัฐมนตรีแล้วจริงหรือไม่ เพราะมีหลายข้อพิรุธหลังจากที่มีข่าวออกมา มีสส.ในพรรคหลายคนออกมาปฏิเสธ ล่าสุดก็มีสส. ชุมพรอย่างน้อย3 คน บอกว่าลงพื้นที่แล้วถูกประชาชนต่อว่าและด่าทอเพราะทำให้เข้าใจผิดจึงต้องรีบออกมาชี้แจง


อีกเรื่องคือเนื้อความที่อยู่ในเอกสารระบุว่ารัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีความรู้ความสามารถขาดจริยธรรม ซึ่งลงชื่อโดยนาย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนายสุชาติก็เป็นรัฐมนตรีของพรรค ตนก็ไม่ทราบว่านายสุชาติเป็นคนลงนามในเอกสารจริงหรือไม่ หากเป็นคนเซ็นจริงก็แปลว่ากำลังด่าตัวเองอยู่ ว่าไม่มีความรู้ความสามารถ และขาดจริยธรรม ซึ่งจะต้องไปถามความชัดเจนจากนายสุชาติว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

นายเอกนัฏยังกล่าวอีกว่าลายเซ็นที่เห็น ไม่ตรงกับลายเซ็นที่ใช้ในเอกสารราชการ ตนเคยเห็นลายเซ็นสส.หลายคนตั้งแต่สมัครเป็นสมาชิก ก็ไม่ตรงกับเอกสารดังกล่าว บางคนก็เซ็นแค่ตัวอักษรนำของชื่อผิดวิสัยเอกสารสำคัญ ใส่ลายเซ็นอักษรตัวเดียว แต่ตนยังไม่เห็นเอกสารตัวจริงดูจากไฟล์รูปยังแตก ไม่รู้ว่าเอาลายเซ็นที่เซ็นจากที่อื่นมาประกอบร่างในเอกสารแนบหรือไม่ และตัวเอกสารก็ไม่มีความต่อเนื่อง หรือการเซ็นรับรองต้องอยู่ในเอกสารเดียวกันในตัวเนื้อความ ตนจึงมีการตั้งข้อสังเกตในหลายเรื่อง แต่อย่างไรก็ตามเรื่องในพรรคก็เป็นเรื่องในพรรค ก็ต้องจัดการกันในพรรคไม่เกี่ยวกับเสถียรภาพความเป็นอยู่ของรัฐบาล


เมื่อถามว่าได้คุยกับหัวหน้าพรรค และจะมีการพูดคุยกันภายในพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ได้คุยและตอนนี้ตนให้โอกาส ขอสื่อสารผ่านสื่อว่าขอให้ทำให้โปร่งใส ใครที่มีรายชื่อปรากฏในเอกสารดังกล่าว ที่ไม่ได้มีเจตนากดดันนายกฯไม่ได้มีเจตนาด่ารัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีมีความรู้ความ สามารถจริยธรรม ก็ต้องออกมาชี้แจง โดยตนได้พูดคุยกับสส.ทีละคนตั้งแต่มีภาพปรากฏไปรวมตัวกัน และมีข่าวจะย้ายพรรคขณะที่ส.ส. ก็ออกมาประกาศว่าไม่เป็นความจริง และวงที่คุยไม่ใช่เรื่องการย้ายพรรคเหตุการณ์ครั้งนี้ที่มีรายชื่อก็เช่นเดียวกัน ที่ขอตั้งข้อสังเกตและชวนสื่อไปดูว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเอกสารดังกล่าว วันนี้เมื่อมีคนออกมาปฏิเสธไม่ต่ำกว่า3-4รายชื่อจาก 21 รายชื่ออย่างนี้เรียกว่าเป็นเอกสารเถื่อน

ส่วนใครเป็นคนดำเนินการเอกสารดังกล่าว นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนรวบรวมรายชื่อ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการทำงานของทั้งตนและนายพีระพันธุ์ เราไปสร้างศัตรูไว้เยอะก่อนหน้านี้มีการไปลงขันกันด้วยเงินหลายร้อยล้านบาท หลังจากโรงงานที่ตนไปยกเลิกและปิดโรงงาน ซึ่งการลงทุนฆ่าหรือย้ายตนง่ายกว่าไปปรับคุณภาพโรงงาน เพราะภารกิจของเขา คือต้องการเอาตนเอาออกตำแหน่งให้ได้

เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่ทำเช่นนี้เพื่อขอให้ขับออกจากพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ถ้าใครเห็นว่าจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไม่เป็นไปตามอุดมการของเขาก็มีสิทธิ์ลาออก แต่ตราบใดที่เป็นสมาชิกของพรรค ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของพรรคเมื่อถามย้ำว่าคนที่ลาออกอาจจะขาดสมาชิกภาพ จึงต้องการให้พรรคขับออก นายเอกนัฏ กล่าวว่า ต้องย้อนดูว่าการกระทำที่มีความผิดต่อพรรคร้ายแรง เช่น การผิดจริยธรรมร้ายแรงและการบิดเบือนเอกสาร การปลุกปั่นทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคเพื่อหวังผลใดๆ และสิ่งเหล่านี้อาจมีผลทำให้ขาดสมาชิก และขอให้กลับไปอ่านข้อบังคับพรรคดูดีๆ คนที่ปรากฎลงลายมือชื่อ ให้ไปถามสส.ว่าได้ลงลายมือชื่อจริงๆหรือไม่ ส่วนที่มีชื่อของนายสุชาติ ก็ต้องให้ไปถามนายสุชาติ เพราะตนโทรไปไม่รับ แต่สส.คนอื่นที่ตนโทรไปรับและระบุว่าไม่มีอะไร เช่นนายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี ยังระบุว่ารักพรรครทสช.เหมือนเดิม ไม่น่าจะมีอะไร แต่หากทำอะไร ไม่ถูกต้องก็อาจขาด สมาชิกภาพที่ขัดข้อบังคับพรรคโดยไม่ต้องใช้มติกรรมการบริหารพรรคขับออกได้


“ขอตั้งข้อสังเกตว่าแปลกหรือไม่ ที่ใครจะเซ็นชื่อตัวเองมาปลดตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าตัวเองขาดคุณสมบัติ ถามว่าใครจะไปเซ็นรับรองข้อความนั้น”

เมื่อถามว่านายกฯเปิดโอกาสให้แต่ละพรรคเสนอชื่อปรับครม.ในส่วนของพรรค จะปรับหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่าปรับหรือไม่ปรับ ต้องรอสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะนายกฯจะเป็นคนลงนามภายใต้สัญญาที่มีให้กัน ส่วนจะปรับหรือไม่ปรับอย่างไรเป็นกลไกของแต่ละพรรค ขอให้เป็นไปตามการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค เพราะบ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมืองทุกอย่างมีกติกาอยู่

เมื่อถามว่าใน 21 รายชื่อ มีใครที่ไม่ได้เซ็นชื่อจริงได้ตรวจสอบหรือยัง นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีทยอยมาชี้แจง แต่ยังไม่ได้พูดคุยในเรื่องนี้ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าได้ยื่นเอกสารจริงหรือไม่ และที่ตนได้พบกับนายกฯเมื่อตอนเช้า ก็พูดถึงเรื่องของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งนายกฯให้กำลังใจในทุกเรื่องและที่ผ่านมาก็สนับสนุนการทำงานของตนตลอดมา

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีปรากฏการณ์ความแตกแยกภายในพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นระยะ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ได้เตรียมใจไว้แล้ว ตนเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ การทำงานของตนอาจจะไปเหยียบเท้าใครก็ได้ จึงต้องพยายามกระทำทุกวิธีการในการจัดการ คนแทงจากข้างนอกอาจเห็นว่าไม่เจ็บเท่าข้างใน จึงต้องมาป่วนข้างใน และเชื่อว่าคนที่ขัดผลประโยชน์สร้างเรื่องเพื่อให้เกิดความแตกแยก ตนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ที่ผ่านมากรรมการบริหารพรรคได้สื่อสารพูดคุยกับสส.ที่มีการประชุมมาตลอดไม่มีปัญหาอะไร.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]