กทม. 26 ก.พ.-“ธรรมนัส-อนุชา” ผลักดันโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองระบายชัยนาท-ป่าสัก สั่งการกรมชลฯ เสนอโครงการฯ บรรจุในแผนปี 68
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองระบายชัยนาท – ป่าสัก โดยมี นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มผู้ใช้น้ำจังหวัดชัยนาท เข้าร่วม ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ตำบลวัดโคก อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้เกิดอุทกภัยขึ้นบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมชลประทาน จึงได้จัดทำแผนบรรเทาอุทกภัยเจ้าพระยาตอนล่าง จำนวน 9 แผน โดยมีมติเห็นชอบจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ซึ่งโครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท – ป่าสัก เป็น 1 ใน 9 แผนงาน เป็นงานปรับปรุงคลองชัยนาท – ป่าสัก โดยมีแผนงานก่อสร้าง 6 ปี (2568-2573) หากโครงการนี้แล้วเสร็จจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในภาพรวมของทั้งลุ่มน้ำได้ โดยสามารถตัดยอดน้ำหลากที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาได้สูงถึง 930 ลบ.ม./ วินาที
ในส่วนของความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองระบายชัยนาท – ป่าสัก ประกอบด้วยบานระบายจำนวน 4 ช่อง สามารถระบายน้ำสูงสุดได้ 930 ลบ.ม./วินาที เป็นประตูระบายน้ำที่สามารถรับน้ำเข้าคลองชัยนาท – ป่าสัก ในช่วงฤดูแล้งเนื่องจากธรณีประตูมีระดับต่ำกว่าประตูระบายน้ำมโนรมย์ ถือเป็นการเสริมความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาในพื้นที่ และสามารถใช้บริหารจัดการน้ำในระหว่างการก่อสร้างโครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งมีระยะเวลาการก่อสร้างยาวนาน จำเป็นต้องส่งน้ำและระบายน้ำขณะการก่อสร้าง โดยโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองระบายชัยนาท – ป่าสัก มีแผนงานก่อสร้าง 4 ปี (2568-2571) วงเงินงบประมาณ 650 ล้านบาท ท้้งนี้ รมว.เกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งเตรียมความพร้อมและนำเสนอโครงการบรรจุในแผนของบประมาณในปี พ.ศ. 2568 ต่อไป
ด้าน รมช.อนุชา กล่าวว่า ตนพร้อมสนับสนุนและขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทุกปี โดยปีนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณเอลนีโญที่จะส่งผลกระทบไปจนถึงกลางปี 2567 ซึ่งทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน ต้องบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขในระยะยาวอย่างจริงจัง พร้อมย้ำว่า โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองระบายชัยนาท – ป่าสัก แผนงานก่อสร้าง 4 ปี (2568-2571) จะช่วยให้พื้นที่การเกษตรในภาคกลาง มีน้ำใช้ทำการเกษตรช่วงฤดูแล้ง และยังรองรับปริมาณน้ำช่วงฤดูฝนไม่ให้น้ำไหลท่วมพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกด้วย.-314.-สำนักข่าวไทย