อ่างทอง 7 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงเรียนดัง จ.อ่างทอง หลังพบนักเรียนที่ไม่ใช่สัญชาติไทยมากผิดปกติ หวั่นถูกล่อลวงมา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดอ่างทอง รายงานไปยังเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หลังจากพบว่าโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนชนเผ่าเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ หวั่นว่าจะถูกล่อลวงมา ซึ่งการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว ทำให้ได้พบกับเด็กนักเรียนหญิงชนเผ่าอาข่ารายหนึ่ง ร่ำไห้บอกผู้สื่อข่าวว่า คิดถึงพ่อแม่และคิดถึงบ้านที่จากมา ในพื้นที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ พร้อมกับเพื่อนในหมู่บ้านอีกหลายสิบคน จริงๆ แล้วไม่อยากมา แต่ก็ต้องเดินทางมากับกลุ่มคนแปลกหน้า ซึ่งนำรถไปรับถึงในหมู่บ้าน ก่อนจะพามาเรียนหนังสือที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งเด็กหญิงคนนี้เป็นหนึ่งในเด็กนักเรียน 130 คนที่ไม่ใช่สัญชาติไทย และไม่สามารถพูดภาษาไทยได้
ล่าสุดนายรักศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอป่าโมก พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง เข้าตรวจสอบโรงเรียนแห่งนี้แล้ว หลังได้รับการประสานงาน โดยโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนชนเผ่าเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ทั้งที่มีผู้อำนวยการ 1 คน ครูประจำการ 1 คน ครูอัตราจ้าง 1 คน และเจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน แต่กลับมีเด็กนักเรียนถึง 137 คน ซึ่งเป็นเด็กสัญชาติไทยเพียง 7 คน ที่เหลืออีก 130 คน เป็นเด็กสัญชาติกัมพูชาและเมียนมา ไม่สามารถพูดหรือสื่อสารภาษาไทยได้ โดยมีรายงานว่า เด็กเกือบทั้งหมด ทางผู้บริหารโรงเรียน ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง และกรรมการสถานศึกษา นำรถไปรับมาจากจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
เบื้องต้นตอนนี้ต้องดูแลเด็กก่อน ซึ่งเด็กเหล่านี้มีปริมาณมาก และโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนรัฐ ไม่สามารถนำเด็กชนเผ่ามาเรียนได้ โดยเฉพาะปีนี้มีจำนวนมากจนผิดสังเกต ทั้งที่มีบุคลากรเพียง 4 คน และที่พักก็ไม่เหมาะสม ส่วนเรื่องการนำเด็กมา หรือข้อกฎหมายอื่นๆ หากพบว่าผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงกรณีนี้กับผู้อำนวยการโรงเรียน ปรากฏว่า ทางผู้อำนวยการปฏิเสธให้ข้อมูลในเรื่องนี้
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ จำนวนนักเรียนทั้งหมด 137 ราย มีเด็กนักเรียนสัญชาติไทย 7 ราย สัญชาติกัมพูชาที่พ่อแม่ทำงานอยู่ในพื้นที่ 2-6 ราย ส่วนที่เหลืออีกกว่า 120 ราย ต้องดำเนินการพิสูจน์สัญชาติ และตรวจสอบการเดินทางเข้ามาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เข้ามาตรวจสอบว่า มีการถูกชักจูง ถูกล่อลวง หรือถูกบังคับขู่เข็ญ รวมถึงมีการเรียกรับผลประโยชน์ในการนำเด็กนักเรียนที่ไม่ใช่สัญชาติไทยเข้ามาเรียนที่นี่หรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะมาสอบปากคำ ทั้งผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อนำไปหารือว่าจะมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ใดต่อไป. – สำนักข่าวไทย