พัทลุง 17 ก.พ.- “นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ทะเลน้อย พัทลุง ป้อนหญ้าควายทะเล รับปากแก้ปัญหาตื้นเขิน-กำจัดวัชพืช ลั่นทำให้หมดทุกพื้นที่ไม่มีเลือก ปลื้มชาวบ้านอวยผลงาน “ทักษิณ” สร้างถนน-สะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา อ้อน แหลงใต้ไม่เป็นยังรักอยู่ไหม ดีใจได้ฟังปัญหาจากปาก ปชช. สัญญาจะกลับไปทำการบ้านเพิ่ม บอกถ้าคนไทยรวย รัฐบาลก็เข้มแข็ง ขณะที่ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ ตะโกน “นายกฯ สู้สู้”
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา) ระหว่างวันที่17-18 กุมภาพันธ์
โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานตรัง ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มีเด็กนักเรียนและครูอาจารย์ จากโรงเรียนมิตรภาพที่ 31 (วัดทุ่งหวัง) มารอต้อนรับ และมอบไม้แกะสลักรูปปลาพะยูน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดตรัง ให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก โดยนายกรัฐมนตรีได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์ “ไอ เลิฟ ยู” ให้กับเด็กนักเรียนด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางมาจุดแรกติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ที่บริเวณจุดชมวิวทะเลน้อย ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมลงพื้นที่ และมีนายถนอมพงศ์ หลีกภัย สส.เขต 1 จ.ตรัง นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.เขต 2 จ.พัทลุง พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย
เมื่อมาถึง นายกรัฐมนตรีได้ป้อนหญ้าให้กับควายน้ำที่ถูกเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ทะเลน้อย ระหว่างป้อนหญ้า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามชื่อของควายที่ป้อนอาหารทั้ง 3 ตัว คือ “สุชาติ-บัวตอง-ทองกวาว” พร้อมชมว่า “น่ารัก”
ขณะที่ตัวแทนผู้เลี้ยงควายได้ขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยผลักดันเรื่องของผลิตภัณฑ์นมควายทะเลน้อย เนื่องจากเกษตรกรมีการผลิตอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาผลักดันและมีศูนย์รับซื้อ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเนื่องจากในต่างประเทศนมควายก็เป็นที่นิยมอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ยังได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาของทะเลน้อยที่ตื้นเขิน 2 แนวทาง โดยนายกฯ ได้รับข้อเสนอและเห็นด้วยกับ 2 แนวทาง คือ การนำวัชพืชที่อยู่ในทะเลน้อยขึ้นมาทำปุ๋ยขึ้นมาทำปุ๋ย เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และเห็นด้วย ขยายการนำวัชพืชมาถมเป็นการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เกษตรกร กล่าวด้วยว่า หวังว่าจะเห็นความสำเร็จในรัฐบาลของนายกฯ แพทองธาร เพราะในอดีตเมื่อปี 2547 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยสร้างถนนและสะพานเอกชัยที่เชื่อมระหว่างพัทลุงกับสงขลาสำเร็จมาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถึงกับอุทานว่า “โอ้โห 20 ปีมาแล้ว” และกล่าวว่าพื้นที่ไหนมีความพร้อมในการแก้ปัญหา ก็ทำให้หมดทุกพื้นที่ไม่มีการเลือก
ขณะเดียวกันยังมีประชาชนถือป้าย พร้อมยื่นหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา เพื่อความสะดวกสบายและลดระยะเวลาในการเดินทาง
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนมาถือป้าย ภาพนายทักษิณ ลงพื้นที่ พร้อมข้อความระบุว่า “ภาพแห่งความประทับใจที่ไม่ลืม นายทักษิณลงพื้นที่เปิดงานแข่งโพนเมื่อปี 2546 และจุดสร้างสะพานต่างระดับทะเลน้อย” และป้ายข้อความว่า “คลองไทยทักษิณคิดปี 48 อุ๊งอิ๊ง สานต่อ ปี 68” พร้อมตะโกนให้กำลังใจ “นายกด้วย สู้สู้ ”
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการสาธิตผลิตภัณฑ์โอทอปชุมชนของดีในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ก่อนที่จะเดินประชาชนที่มารอต้อนรับ มีทั้งมอบดอกไม้ พวงมาลัยและถ่ายรูปเซลฟี่ร่วมกับนายกฯ พร้อมรับชมการแสดงมโนราห์จากเยาวชนโรงเรียนบ้านท่าแค อำเภอเมืองพัทลุง (วันครู 2500) เพื่อเป็นการต้อนรับนายกรัฐมนตรีในการที่จังหวัดพัทลุง และระหว่างชมวีดีทัศน์การบริหารจัดการน้ำทะเลสาบสงขลา (ทะเลน้อย) ซึ่งได้มีการพูดถึงการสร้างสะพานที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพัทลุงกับสงขลา โดยชื่นชมว่าเป็นการสร้างในสมัย รัฐบาลนายทักษิณชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยอนุมัติงบประมาณ 700 ล้านบาท ทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานถึงกับปรบมือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถึงกับยิ้มและยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพบนวีดีทัศน์ที่มีภาพของนายทักษิณประกอบด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกับกล่าวว่า “แหลงใต้ไม่เป็นยังรักอยู่ไหมเนี่ย” และกล่าวต่อว่าขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้คณะรัฐมนตรีหลายท่านกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆได้รวบรวมกันทำงาน โดยพรุ่งนี้(18 ก.พ.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกัน ขอบคุณประชาชนสำหรับการต้อนรับ ไม่ต้องห่วงทางราชการคณะรัฐมนตรีทั้งหมดได้ทำการบ้านเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคที่ชาวพัทลุงได้เจอ และดีใจที่ได้มาฟังจากผู้ว่าราชการจังหวัด และหลายท่านได้นำเสนอปัญหาจริงๆของจังหวัด เพราะตนพูดอยู่เสมอว่าคนในพื้นที่รู้ปัญหาของตัวเองดีที่สุด พร้อมกับถามประชาชนว่าจริงหรือไม่ จากนั้นประชาชนได้ตอบว่าจริงและตบมือให้กับนายกรัฐมนตรี และเมื่อเดินทางมาก็จะรู้ว่ามีอะไรบ้าง และอะไรที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนเพราะความจริงถ้าเกิดประชาชนรวย รัฐบาลก็แข็งแรง ประเทศแข็งแรงไปด้วย ดังนั้นความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นส่วนสำคัญที่สุดของรัฐบาล ย้ำว่าดีใจที่ได้มาฟังด้วยตัวเอง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าว ขอบคุณที่ยังนึกถึงอดีตนายกฯทักษิณ ที่เคยมาในพื้นที่และสร้างประโยชน์เอาไว้ ต้องขอบคุณรัฐบาลในสมัยของนายทักษิณ ที่มีส่วนร่วม และมีส่วนผลักดัน ตนเองวันนี้ที่ได้มาเจอกับประชาชนก็เต็มที่ กลับไปจะทำการบ้านเพิ่มเติมอย่างแน่นอน และวันนี้เรามีรองนายกฯพีระพันธุ์ ที่ ดูแลและ รับทราบปัญหาดี เมื่อได้ฟังว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างและจะแก้ไขอย่างไร รัฐบาลจะมองภาพใหญ่ ไม่อยากแก้ปัญหาแค่ 1 ปีและปัญหาก็เกิดขึ้นอีกแบบนี้ไม่อยากทำแต่อยากทำให้ปัญหามันหมดไป ฉะนั้นเต็มที่ และขออย่างเดียวให้ประชาชนรักษาสุขภาพ กินอิ่มนอนหลับ เป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล และรัฐบาลจะช่วยประชาชนอย่างเต็มที่แน่นอน ขอให้เป็นกำลังใจให้กันและกัน โดยรัฐมนตรีทุกคนที่มาในวันนี้ให้ความสำคัญกับพัทลุง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าขอให้มีกำลังใจในการสู้ทำมาหากิน เข้มแข็งเราจะช่วยกันต่อไป จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปปฎิบัติภารกิจต่อที่บริษัทไทยยูเนียนซีฟู้ด อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยระหว่างทางได้แวะชมควายทะเลกลางสะพานเอกชัย เชื่อมพัทลุง – สงขลา ที่สร้างขึ้นในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่
สำหรับภารกิจการลงพื้นที่ นายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Lexus ทะเบียน 5ขส 45 กรุงเทพมหานคร.-316 -สำนักข่าวไทย