ออสเตรเลียขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า นร.ต่างชาติกว่า 2 เท่า

ซิดนีย์ 1 ก.ค.- ออสเตรเลียแจ้งขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักเรียนต่างชาติเป็นกว่า 2 เท่า เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลออสเตรเลียที่ต้องการจำกัดจำนวนคนเข้าเมืองมากเป็นประวัติการณ์ เพราะสร้างแรงกดดันให้แก่ตลาดบ้านที่ตึงตัวมากอยู่แล้ว


กระทรวงมหาดไทยออสเตรเลียแถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมวีซ่าของนักเรียนต่างชาติได้เพิ่มขึ้นจาก 710 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 17,315 บาท) เป็น 1,600 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 39,020 บาท) ส่วนผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวและนักเรียนที่ถือวีซ่าชั่วคราวหลังสำเร็จการศึกษา ไม่สามารถยื่นขอวีซ่านักเรียนขณะอยู่ในออสเตรเลียได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยฟื้นระบบการศึกษานานาชาติของออสเตรเลียให้กลับมามีความปกติอีกครั้ง และสร้างระบบคนเข้าเมืองที่เป็นธรรมและดีขึ้นให้แก่ออสเตรเลีย

ข้อมูลที่เผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2567 ระบุว่า ในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 ออสเตรเลียมีคนเข้าเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 ไปทำสถิติที่ 548,800 คน ส่วนปี 2565-2566 มีนักเรียนต่างชาติยื่นขอวีซ่าใหม่ขณะอยู่ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 เป็นมากกว่า 150,000 คน


ออสเตรเลียเริ่มเข้มงวดระเบียบการให้วีซ่านักเรียนต่างชาติตั้งแต่ปลายปี 2566 หลังจากการยกเลิกมาตรการจำกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2565 ได้ทำให้มีคนเข้าเมืองมากเป็นประวัติการณ์ โดยได้เข้มงวดเกณฑ์ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และเพิ่มยอดเงินฝากในบัญชีเป็นไม่ต่ำกว่า 29,710 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 724,565 บาท)

ด้านมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียมองว่า นโยบายนี้ไม่เป็นผลดีต่อมหาวิทยาลัยและเศรษฐกิจออสเตรเลีย เพราะรายได้จากนักเรียนต่างชาติเป็น 1 ในอุตสาหกรรมการส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศ มีมูลค่าสูงถึง 36,400 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 887,720 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2565/2566.-814.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ

“อันวาร์” โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ สร้างสันติภาพเมียนมา

“อันวาร์” ประธานอาเซียน โพสต์ภาพคุย “ทักษิณ” พร้อมคณะ แลกเปลี่ยนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ก่อนประชุมทางไกลหารือ NUG

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต