นายกฯ เยี่ยมชมย่านเมืองเก่าสงขลา หวังดันท่องเที่ยวลักชัวรี

สงขลา 17 ก.พ.- นายกฯ นำ ครม. เยี่ยมชมย่านเมืองเก่าสงขลา ล้อมวงรับฟังปัญหาพื้นที่ หวังดันท่องเที่ยวลักชัวรี ชมการแสดงโนราห์-รองเง็ง พบประชาชนโผล่ทวงเงินเยียวยาน้ำท่วม ก่อนร่วมรับประทานอาหารเย็นกับคณะรัฐมนตรี ถ่ายภาพหมู่กับนางเงือก สัญลักษณ์ของหาดสมิหลา


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางมาเยี่ยมชมชุมชนเมืองเก่าสงขลา และล้อมวงพูดคุยประเด็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา ที่ย่านเมืองเก่าสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

โดยระหว่างที่บรรดารัฐมนตรีกำลัง ยืนรอขบวนรถของนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น นายจุลพันธ์ ได้สอบถาม น.ส.ซาบีดา​ ถึงเหตุการณ์นั่งร้านถล่มที่จังหวัดยโสธร โดยนายอนุทิน กล่าวแซวว่าเห็นสามีร้องไห้โฮ​ ผมจึงถามว่าเป็นอะไร​ เขาจึงบอกว่า ทำไมถึงไม่เป็นอะไร​ ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับรัฐมนตรีที่ยืนรอรับนายกรัฐมนตรี​ ก่อนที่ น.ส.สุดาวรรณ และนางมนพร จะสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่ง น.ส.ซาบีดา บอกว่า​ โชคดีที่เอามือค้ำไว้​ ทำให้นางมนพร​ ชื่นชม ว่ายังมีสปิริตกล่าวเปิดงานต่อ​ ซึ่ง น.ส.ซาบีดา​ กล่าวว่า​ ชาวบ้านตกใจจึงต้องลงไปคุยกับชาวบ้าน​


จากนั้นเมื่อมาถึงนายกฯ ได้เข้าเยี่ยมชมโรงสีแดง “หับ โห้ หิ้น” ซึ่งเป็นโรงสีข้าวเก่าแก่ในย่านเมืองเก่าของสงขลา โดยตัวอาคารทาด้วยสีแดงแรงฤทธิ์ อายุกว่าร้อยปี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2460 โดยตระกูลหับ โห้ หิ้น ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงในธุรกิจการค้าและการเกษตรของสงขลาในยุคนั้น ซึ่งโรงสีแดงนี้นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กในบริเวณย่านเมืองเก่า สงขลา

โดยจุดนี้นายกฯ ได้เยี่ยมชุมซุ้มอาหารจากชาวบ้านชุมชนมุสลิมบ้านเมืองเก่าสงขลา ที่ได้เตรียมอาหารพื้นบ้านพหุวัฒนธรรม คือ อาหารไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม มาจัดแสดงสาธิตให้นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชม ประกอบด้วย หมี่กรอบทรงเครื่อง ปอเปี๊ยะสด ลูกชิ้นปลาพริกไทยดำ ซาโมซ่า ขนมปรำจี ข้าวยำสมุนไพร มะตะบะไก่ หมี่กะทิทรงเครื่อง ข้าวเหนียวสามเหลี่ยมปิ้งและนึ่ง ขนมม้า ขนมจีบ เต้าคั่ว ข้าวมันแกงไก่ ไข่ครอบ ข้าวผัดแดง ขนมครกน้ำแกง โรตีแกงไก่บ้านในนคร และขนมบูตู เป็นต้น

ก่อนที่นายกฯ ได้ร่วมเสวนาและรับฟังรายงานสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา


ช่วงหนึ่งตัวแทนจากชุมชนเมืองเก่าได้กล่าวขอเป็นตัวแทนชาวสงขลาถามถึงเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วมจากรัฐบาล ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้รายงานถึงสถานการณ์พื้นที่สีแดง 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ว่า ขณะนี้ไม่ได้มีความรุนแรง เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่บริษัทประกันภัยกลับตีว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และไม่คุ้มครอง

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้บอกถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่มีในพื้นที่ สงขลาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก ตัวเลขนักท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน คิดอยู่ในใจว่าการท่องเที่ยวแบบลักชัวรี่ เช่นที่ ภูเก็ตก็รับนักท่องเที่ยวมากอยู่แล้ว ถ้ามีการวนมาที่สงขลานั้น การท่องเที่ยวก็จะต่อเนื่องและอยากให้ประเทศของเราทุกพื้นที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองหลักเท่านั้น ได้มีโอกาสเป็นพื้นที่ เป็นจังหวัดน่าเที่ยวของทั้งโลก จึงขอให้ทุกท่านช่วยสรุปในเรื่องของกฎหมายต่างๆ เนื่องจากกฎหมายบางข้อมีมานานมาก บางกฎหมายมีอายุ 60 ปี 30 ปี ถ้ามีอะไรที่เป็นกฎหมายไม่อัปเดต ไม่ทันกับปัจจุบัน และมีความทับซ้อนกัน อย่างเช่นเรื่องแอลกอฮอล์ ก็อยากให้ท้องถิ่นเสนอมา จะต้องปรับอะไรบ้าง อะไรจะสามารถทำได้บ้าง รวมถึงปัญหาดวงไฟและเส้นทางเดินทางต่างๆ ก็ขอให้ส่งเข้ามา

นายกฯ กล่าวว่าตอนเข้ามาสงขลาก็รู้สึกว่าสวย น่าเที่ยว เรื่องที่ต้องไปเคลียร์ของเรดโซน เพราะเคยมีความไม่สงบ แต่ขณะนี้ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น อาจจะต้องดูเรื่องของประกัน ว่า ควรจะเข้าไปอยู่ด้วยหรือไม่มี ตนก็ทราบและคิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันรับฟังปัญหาอยู่แล้ว ถ้ามีข้อมูลอะไรก็ส่งมา ถ้าภาครัฐและเอกชนร่วมมือกับจังหวัดสงขลาไปได้อีกไกลอย่างแน่นอน ยืนยันว่าเรื่องนี้จะตามต่อให้ เพื่อดูว่าจะสามารถขับเคลื่อนอะไรได้บ้าง ย้ำว่า เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง อย่าพึ่งท้อใจ แม้ว่าจะต้องใช้เวลา ตนรับทราบและต้องร่วมมือกันเมื่อชุมชนเข้มแข็ง เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะพัฒนาง่าย

จากนั้นนายกฯ ได้นำคณะ เดินเท้าเยี่ยมชมบริเวณย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งระหว่างทาง ได้มีชาวบ้านมารอมอบดอกกุหลาบให้กับนายกฯ พร้อมกับทวงเงินเยียวยาน้ำท่วม ทำให้นายกฯ ตอบกลับทันทีว่า “พรุ่งนี้ค่ะ พรุ่งนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี”

จากนั้นนายกฯ ได้ชมการแสดงพื้นบ้าน ระบำรองเง็งและรำมโนราห์ รวมถึง “บ้านนครใน” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าสงขลา ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ต่อมาได้ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์

นายกฯ ยังได้แวะชิมขนมทองเอก จากร้านบ้านจงดีขนมไทย ซึ่งนายกฯ บอกว่า อร่อย และชวนให้บรรดารัฐมนตรีได้ชิมขนมทองเอก ซึ่งตลอดทางนั้นได้มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก พร้อมกับนำดอกไม้และขนมต่างๆ มามอบให้ ช่วงหนึ่งมีเด็กนักเรียนมาขอถ่ายรูปคู่ นายอนุทินออกตัวขอเป็นผู้ถ่ายรูปให้ ก่อนเดินเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ก่อนจะเดินออกมาและชิมไอศครีมไข่แข็ง ร้านบันหลีเฮง โดยนายกฯ ได้หยิบไอศครีมแจกกับบรรดารัฐมนตรี อย่างเป็นกันเอง จากนั้นนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ได้ขึ้นรถกลับออกจากย่านเมืองเก่าสงขลา

นายกฯ และคณะรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงรับรองบริเวณชายหาดสมิหลา โดยนายกฯ ได้เดินดูและอุดหนุนสินค้าวิสาหกิจชุมชน ที่มาออกร้านจัดจำหน่ายสินค้าบริเวณหาดสมิหลา ก่อนจะนำคณะรัฐมนตรีทั้งหมดถ่ายรูปกับนางเงือกสัญลักษณ์ของหาดสมิหลา.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย