เตหะราน 2 มิ.ย. – เครือข่ายข่าวสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน (IRINN) รายงานว่า การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศกำลังเติบโต ได้รับความนิยมสูง ปีที่แล้วมีผู้ป่วยจากต่างชาติเดินทางไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของอิหร่านมากกว่า 1.2 ล้านคน
น.พ. บาห์ราม เอนอลลาฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่าน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยต่างชาติส่วนใหญ่มาจากอัฟกานิสถาน อิรัก อาเซอร์ไบจาน ปากีสถาน ตุรกี และอินเดีย เข้ารับบริการด้านการแพทย์และสุขภาพครอบคลุมหลากหลายสาขา อาทิ นรีเวชวิทยา สูติศาสตร์ ศัลยกรรมตา กระดูกและข้อ ศัลยกรรมความงาม โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินปัสสาวะ และที่สำคัญ มะเร็งเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวด้านสุขภาพไปเที่ยวอิหร่านมากที่สุด ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการยอมรับของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากต่างชาติที่มีต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์ของอิหร่าน
น.พ. เอนอลลาฮีระบุว่า การรักษาที่มีต้นทุนต่ำและคุณภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความคล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ การเข้าถึงที่ง่าย และความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว เป็นปัจจัยหลักผลักดันให้นักท่องเที่ยวเลือกอิหร่านเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางเข้ารับรับการรักษาพยาบาล
รัฐมนตรีสาธารณสุขอิหร่านระบุด้วยว่า อิหร่านได้รับการจัดอันดับทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ 2565 โดยอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณภาพการศึกษาทางการแพทย์ในมหาวิทยาลัยของประเทศอยู่ในระดับมาตรฐานสากล รวมถึงการผลิตยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ความก้าวหน้าที่ที่เห็นได้ชัดคือ นักวิทยาศาสตร์อิหร่านสามารถพัฒนาวัคซีน COVID-19 รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องช่วยหายใจและชุดตรวจที่มีความแม่นยำสูงในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ท่ามกลางข้อจำกัดในการนำเข้าจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย