กทม. 26 พ.ค.- รอง ผบ.ตร. สั่งยึดทรัพย์ผู้ต้องหาทัวร์ทิพย์ พร้อมกำชับเร่งกวาดล้าง เพราะสร้างความเสียหายด้านการท่องเที่ยว
11.20 น. จากกรณีเมื่อวันที่ 15 พ.ค.66 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันมาร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีถูกเจ้าของบริษัททัวร์หลอกลวงชักชวนให้ผู้เสียหายซื้อโปรแกรมนำเที่ยวต่างประเทศ อาทิ ทัวร์ดูบอลที่อังกฤษ หรือทัวร์ที่ญี่ปุ่น โดยมีการโฆษณาผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook, YouTube, Website ใช้ดารานักแสดงร่วมเดินทางเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และยังจูงใจด้วยการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เช่น ไป 5 จ่าย 4 เป็นต้น เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อซื้อโปรแกรมนำเที่ยวกับผู้ต้องหา แต่หลังจากจ่ายเงินซื้อทัวร์แล้ว กลับถูกผู้ต้องหาทิ้งทัวร์โดยไม่มีการจัดนำเที่ยวตามที่ตกลงไว้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวนกว่า 320 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8 ล้านบาท
กรณีดังกล่าว รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.คูคต ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ รับคำร้องทุกข์และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ นายสุขสันต์ เจ้าของบริษัททัวร์ดังกล่าว ศาลจังหวัดธัญบุรีได้อนุมัติตามหมายจับที่ 292/2566 ลงวันที่ 19 พ.ค.66 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและผู้ใดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าซึ่งข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องไม่กระทำการอันใดให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยว”
ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายสุขสันต์ ได้ที่บ้านพัก หมู่ 5 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งนอกจากคดีของ สภ.คูคต แล้ว กลุ่มผู้เสียหายยังได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักสอบสวนในพื้นที่ สน.ปทุมวัน, สภ.บางกรวย ภ.จว.นนทบุรี, สภ.ทุ่งสง ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสุขสันต์ ไว้แล้ว จะได้ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ความผิดดังกล่าวยังเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ จะได้ร่วมกับ ปปง. ในการดำเนินการยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายได้มายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว ได้สั่งการให้ สภ.คูคต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ เร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเจ้าของบริษัททัวร์ดังกล่าว และสามารถจับกุมได้ เบื้องต้นได้สั่งให้ท้องที่ที่มีการเกิดเหตุอื่นๆ เร่งออกหมายจับและนำมาอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด หลังจากนี้จะได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อตรวจยึดอายัดและนำมาคืนให้ผู้เสียหายต่อไป .-สำนักข่าวไทย