ตรัง 18 พ.ค. – ตำรวจคุมตัว 2 ใน 3 ผู้ต้องหาคดีแทงนักธุรกิจชาวจีนเสียชีวิต ที่ตรัง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ญาติผู้ตายปรี่จะเข้าทำร้าย ตะโกนสาปแช่ง
นายณัฐพล อายุ 19 ปี และนายณัฐดนัย อายุ 22 ปี ถูกตำรวจคุมตัวไปทำแผนฆ่า นายซีรุย ลี อายุ 43 ปี นักธุรกิจส่งออกไม้ยางพาราสัญชาติจีน ที่จุดเกิดเหตุภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ส่วนผู้ต้องหาหญิง อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเยาวชน ทางตำรวจได้ควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำและนำไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง
คดีนี้ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยให้การว่า ผู้ตายมาเปิดห้องพัก นัดกับหญิงขายบริการอายุ 17 ปี ที่เคยนัดกันมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง แต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงได้ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายภาพผู้ตายเปลือยกายขณะร่วมหลับนอน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ประกอบกับความมึนเมา ผู้ตายจึงได้ตบหน้าน้องผู้หญิงไป 1 ครั้ง น้องผู้หญิงจึงได้แชทไลน์ไปหานายณัฐดนัย เพื่อระบายความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายตบหน้า นายณัฐดนัย จึงชักชวนนายณัฐพล มาเปิดห้องพักใกล้กัน โดยหญิงวัย 17 ปี อาศัยจังหวะที่ผู้ตายนอนหันหลังให้ แอบพานายณัฐดนัย เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ จนกระทั่งผู้ตายเข้าห้องน้ำ นายณัฐดนัยจึงลงมือแทงเข้าที่ลำคอ ด้านหน้าลำตัว และบริเวณด้านหลัง รวมกว่า 20 แผล ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะหลบหนีไป พร้อมทรัพย์สินของผู้ตายจำนวนหลายรายการ แต่สุดท้าย ก็ถูกตำรวจรวบตัวได้ ในห้องพักแห่งหนึ่งที่ อ.ละงู จ.สตูล
เบื้องต้น ตำรวจสรุปว่า เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ไม่มีผู้จ้างวาน แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาวที่มีนายณัฐดนัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจากตรวจประวัติ พบว่า นายณัฐดนัยเคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ใน จ.ยะลา ชอบสะสมอาวุธมีด แต่ไม่มีประวัติติดยาเสพติด และคดีอาชญากรรมติดตัว
การทำแผนครั้งนี้ มีภรรยาและลูกของผู้ตาย รวมทั้งญาติๆ กว่า 20 คน เดินทางมาดูการทำแผนด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังกว่า 30 นาย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีช่วงหนึ่งที่น้องภรรยาของผู้ตายปรี่จะเข้าทำไปร้ายผู้ต้องหาและตะโกนด่าสาปแช่ง ตำรวจจึงรีบทำแผนและนำตัว 2 ผู้ต้องหา ออกจากรีสอร์ต เพื่อไปทำแผนอีกจุดทันที ขณะที่ทางญาติ บอกว่า ผู้ตายเป็นคนใจดีและเป็นที่รักของพนักงานทุกคน ส่วนชนวนเหตุจะเป็นเรื่องของการไม่จ่ายค่าบริการหรือไม่นั้น ไม่ทราบข้อมูล ด้านพนักงานในบริษัทของผู้ตาย ก็ไม่เชื่อว่า จะไม่มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าเพราะมีการนำยานอนหลับมาใช้ด้วย และไม่เชื่อว่าจะเป็นแค่เรื่องไม่จ่ายค่าบริการหญิงสาว .-สำนักข่าวไทย