กาฬสินธุ์ 20 ก.ย. – เค้นสอบข้ามคืน นายยอด ที่อ้างว่าเป็นเพียงนกต่อลวงพ่อลูกนายฮ้อยมาให้เพื่อนฆ่าโหด กลับลำสารภาพเป็นคนลงมือฆ่า เพราะหวังเอาเงินไปปลดหนี้
คืบหน้ากรณีนายเหรียญ อายุ 62 ปี และนายปิยพงษ์ อายุ 32 ปี พ่อลูกนายฮ้อย ที่ตระเวนรับซื้อขายวัว ถูกคนร้ายฆ่าโหด ยัดศพใส่ท้ายรถกระบะ จอดทิ้งอำพรางไว้ที่ทุ่งนาบริเวณบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองอิเฒ่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนที่ชาวบ้านจะมาพบศพช่วงเช้าวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นวันหลังจากทั้งคู่ไปตลาดนัดโค-กระบือ บ้านหัน จังหวัดมหาสารคาม ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมสังหารว่าเป็นฆ่าชิงทรัพย์ และขัดแย้งการซื้อขายวัว และมีการคุมตัวนายชลนที หรือ ยอด อายุ 20 ปี อดีตหมอลำ และเป็นนายฮ้อยเหมือนกับเหยื่อ มาสอบปากคำ เนื่องจากวันเกิดเหตุ นายยอด นัดพ่อลูกมาดูวัว และเป็นคนสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับพ่อลูก ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกพบเป็นศพ
การเค้นสอบนานหลายชั่วโมง เบื้องต้น นายยอดให้การวกวน และยืนยันเป็นคนลวงพ่อลูกมาให้เพื่อนที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดฆ่า ชิงเงิน 1 แสนบาท และสร้อยคอทองคำ 1 บาท แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะพบข้อพิรุธ และพบความยังขัดแย้งในหลักฐานหลายเรื่อง กระทั่งตลอดคืนที่ผ่านมา พลตำรวจตรีตรีวิทย์ ศรีประภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ มาลุยเค้นสอบด้วยตัวเอง สุดท้ายนายยอด ทนแรงกดดันไม่ไหว กลับลำเปิดปากสารภาพว่าเป็นคนฆ่าพ่อลูกเองกับมือ และที่ให้การไว้ในตอนแรกว่าเป็นนกต่อลวงมาให้เพื่อนฆ่านั้น แต่งเรื่องขึ้นมา
ส่วนข้อเท็จจริง คือ ในวันเกิดเหตุ ได้เจอนายเหรียญ และนายปิยพงษ์ ที่ตลาดนัดโค กระบือ จากนั้นออกอุบายชวนทั้งคู่มาดูวัวที่ทุ่งนา แล้วอาศัยจังหวะที่พ่อลูกเผลอ ชักปืนออกมายิงทั้งคู่เสียชีวิต ก่อนนำศพขึ้นรถ ขับมาทิ้งกลางทุ่งนาเขตพื้นที่กาฬสินธุ์ นำปืนไปโยนทิ้งสระน้ำหมูบ้าน แล้วฉกเอาทรัพย์สินของผู้ตายไป โดยนำเงินสด 30,000 บาท ไปปลดหนี้ ส่วนสร้อยคอทองคำเอาไปฝากไว้กับภรรยาที่ร้อยเอ็ด
ตำรวจจึงพานายยอดไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุผู้ถึงแก่ความตาย, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเคลื่อนย้ายเพื่อปิดบังซ่อนเร้นศพ.-สำนักข่าวไทย